แม่ผัวอวยลูกชาย โว “สินสอด” เจ้าสาวเดือด เหมือนถูกตบหน้า ถอดชุดขาวล่มงานวิวาห์ทันที
แม่ผัวพูดโว “สินสอด” ในงานแต่ง เจ้าสาวเดือด เหมือนถูกตบหน้า ถอดชุดขาวล่มงานวิวาห์ทันที ทั้งที่ตัวเองต้องการช่วยเหลือฐานะฝ่ายชาย
งานแต่งงานหนึ่งในมณฑลเจียงซู กลายเป็นไวรัลที่แชร์สะพัดในโลกออนไลน์จีนอย่างเว้ยป๋อ เมื่อบรรยากาศที่ควรจะอบอวลไปด้วยความชื่นมื่นและความสงบสุขกลับพลิกผัน เมื่อเจ้าสาวตัดสินใจขอยกเลิกการแต่งงานต่อหน้าแขกเหรื่อ เพราะไม่พอใจคำพูดของแม่เจ้าบ่าว ทำให้แขกที่มาร่วมงานและครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างอึ้ง
มีการรายงานว่าในช่วงแม่เจ้าบ่าวขึ้นกล่าวอวยพรคู่รักบาวสาว แม่ของเจ้าบ่าวได้พูดเชิดชูคุณงามความดีของลูกชายตัวเองอย่างออกนอกหน้า ว่ามีความสามารถมากมาย แถมยังแต่งงานกับเจ้าสาวได้โดยไม่ต้องเสียค่าสินสอดแม้แต่บาทเดียว แถมยังไม่ลืมพูดถึงสินสอดที่ทางเจ้าสาวนำติดตัวมาด้วย
คำพูดดังกล่าวได้กระทบต่อความรู้สึกของตัวเจ้าสาวและครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายเจ้าสาวมองว่าเป็นการลดทอนคุณค่าของตัวเอง เหมือนถูกตบหน้าว่าเอาเงินมาประเคนผู้ชาย และยังมองข้ามความตั้งใจ ขาดความเห็นอกเห็นใจทางครอบครัวฝั่งตน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าสาวจึงเกิดอารมณ์และได้ประกาศขอยกเลิกการแต่งงานเสียตรงนั้น ถอดชุดแต่งงานออกทันทีเพื่อแสดงถึงความแน่วแน่
เธอชี้แจงในภายหลังว่าเธอเลือกที่จะไม่ขอสินสอดทองหมั้น เนื่องจากความเกรงใจและเข้าใจในสถานะการเงินของเจ้าบ่าวว่าไม่สู้ดีนัก ไม่ใช่เพราะต้อง “แต่งเข้า” อย่างที่แม่ของเจ้าบ่าวกล่าวแต่อย่างใด การขอยกเลิกการแต่งงานของเธอคือการปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองและการต่อต้านค่านิยมที่ไม่เท่าเทียม
เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ทั้งสองครอบครัวต้องตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วน แต่ยังได้จุดประเด็นถกเถียงทางสังคมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมของงานแต่งงานและเรื่องของสินสอดอีกด้วย มีเสียงสนับสนุนจากภายในอินเตอร์เน็ตว่าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเจ้าสาว และเชื่อว่าการกล้าปกป้องสิทธิ์ของตัวเองนับเป็นสิ่งที่น่านับถือ ในขณะที่หลายคนก็ตำหนิถึงคำพูดของแม่เจ้าบ่าวที่ไม่เหมาะสมและแสดงถึงการขาดความเคารพและเข้าใจในตัวผู้หญิง
เหตุการณ์ในครั้งนี้นับว่าสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเคารพและความเข้าใจในการแต่งงานยุคสมัยใหม่ ในโลกที่แนวคิดดั้งเดิมและปัจจุบันมีการผสมผสานกัน ในไทยก็มีข้อถกเถียงเรื่องตความไม่จำเป็นของสินสอดอีกต่อไป การรับมือกับปัญหาทั้งด้านการเงินและความรู้สึกของแต่ละครอบครัว ถือเป็นความท้าทายที่คู่รักทุกคู่ต้องเจอ เหตุการณ์นี้ได้ผลักดันให้การพูดคุยถึงความเท่าเทียมและการให้เกียรติซึ่งกันและกันในชีวิตสมรสมากยิ่งขึ้น เป็นการเตือนใจทุกคนว่าการสื่อสารและความเคารพนับเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการสร้างความสุขและอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน