ข่าวภูมิภาค

“สุเทพ” เดินสาย เช็คแนวร่วมกระบี่

“สุเทพ” เดินสายเช็คแนวร่วมกระบี่ ยืนยันอีกครั้งไม่รับตำแหน่งการเมือง แต่หวั่นระบอบทักษิณรีเทิร์น ย้ำไม่แทรกแซงเลือกหัวหน้าพรรค ปชป.

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ต.ค.61กระบี่ 11 ต.ค.61 เวลา 1040น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยและผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติได้เดินทางมาพบปะมวลชน กปปส. จ.กระบี่ ณ โรงแรมบุญสยาม ถ.เจ้าคุณ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ วัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีเสวนา “ลุงกำนัน รับฟังปัญหา และเยี่ยมเยือนพี่น้อง กปปส.” มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเวทีเสวนาฯ ประมาณ 200 คนโดยมี นายสาคร เกี่ยวข้อง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ นายป้อมเพชร สุคนธกนิษฐา รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ร้อยตำรวจตรี เสริมชัย คงบรรณ รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ และนายชวน ภู้เก้าล้วน แนวร่วม กปปส.กระบี่ ให้การต้อนรับพร้อมกีนนี้ก่อนเวทีเสวนา นายสุเทพ ฯได้มีการจัดโต๊ะจีนเลี้ยงอาหารเที่ยงจำนวน 37 โต๊ะ ขึ้นภายในห้องอาหาร ของโรงแรม บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ตนเดินทางลงพื้นที่ในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ เพื่อพบปะประชาชนในหลายพื้นที่ เพื่อพูดคุยเรื่องการปฏิรูปประเทศหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศใน 5 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การปฏิรูปการเมือง ประชาชนต้องการเห็นการเมืองเพื่อประชาชนคนไทย และต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง

ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าการปฏิรูปการเมืองได้เดินไปในระดับหนึ่งแล้ว เรื่องที่สอง เรื่องการปราบปรามการคอรัปชั่น สามการกระจายอำนาจการปกครองให้ท้องถิ่น สี่การปฏิรูปการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และห้า ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่ง คสช.ดำเนินการไปแล้วในบางเรื่อง แต่ยังมีประเด็นต่อเนื่องที่ต้องทำ

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า หากไม่มีการขับเคลื่อนจากภาคประชาชน การปฏิรูปต่างๆ ก็จะไม่สำเร็จ ตนจึงต้องลงพื้นที่เพื่อบอกกับประชาชน ว่าให้เตรียมความพร้อม เมื่อถึงเวลาต้องรวมพลังกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเป็นผลสำเร็จ โดยตนจะลงพื้นที่ทุกจังหวัด ส่วนเรื่องของพรรครวมพลังประชาชาติไทย นั้น ตอนนี้รอเพียงกระบวนการรับรองจาก กกต.เพื่อให้เป็นพรรคที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

หลังจากนั้นตนก็จะร่วมกับประชาชน ออกเคลื่อนไหวในทางการเมืองอย่างเต็มที่ แต่ตนยังยืนยันว่า จะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค จะไม่มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค แต่จะเป็นเพียงผู้ร่วมจัดตั้ง นอกจากนี้ตนยืนยันว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อ และต่อไปแม้พรรคจะได้มีดอกาสร่วมรัฐบาล ตนก็จะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในคณะรัฐบาล การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ ตนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศไทย โดยตนยังมีความมั่นใจว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะมีสมาชิกเข้าสภาฯ ได้ไม่น้อยกว่า 50 คน

ผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลต่อระบอบทักษิณ ที่อาจจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่ายังมีความกังวลในเรื่องนี้ ตนและประชาชน ไม่ต้องการเห็นระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจเหนือการเมืองในประเทศไทยอีกต่อไป เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา ระบอบทักษิณ ทำร้ายประเทศไทยไว้มาก ประชาชนจึงต้องตื่นตัวตลอดเวลา

ส่วนเรื่องการเลือก หน.พรรค ปชป. ที่หลายคนออกมาบอกว่านายสุเทพ หนุนหลัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป.นั้น มีคนหลายคนพูดพาดพิงถึงตนหลายครั้งแล้ว ว่าตนสนับสนุน นพ.วรงค์ ตนอยากบอกว่าตนออกจากพรรค ปชป.ตั้งแต่ปี 2556 ลาออกจาก ส.ส.และลาออกจากพรรคด้วย ตนเป็นคนมีมารยาท จะไม่ไปแทรกแซงเรื่องภายในของพรรค

แต่ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับหลายคนในพรรค ที่เคยออกมาต่อสู้ร่วมกันในนาม กปปส. ซึ่งก็มี นพ.วรงค์ เป็นกำลังสำคัญของ กปปส. ขึ้นเวทีเปิดโปงเรื่องรับจำนำข้าวของรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งประชาชนหลายคนชื่นชอบ ตนเองก็ชื่นชอบในการทำหน้าที่ของ นพ.วรงค์ ที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ประเทศ หลังจากนั้นก็ไปบวชด้วยกันกับตนที่วัดสวนโมกข์ ถือเป็นการรู้จักกันส่วนตัว วันนี้ นพ.วรงค์ ลงสมัคร หน.พรรค ตนเองก็ไม่สามารถลงคะแนนให้ได้ แม้จะเป็นเพื่อน เพราะออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button