สาวไต้หวันป่วยจิต ซุกศพพ่อในบ้านหลายปี เหลือแต่กระดูก คาดหวังฮุบเงินบำนาญ
ตำรวจและอัยการบุกจับหญิงสาวเมืองเกาสฺยง ประเทศไต้หวัน เนื่องจากเธอได้ซุกซ่อนศพพ่อแท้ ๆ ของเธอไว้ภายในบ้านนาน 2 ปี เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน ทำเพื่อหวังเงินบำนาญจากพ่อ
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นที่หญิงสาวดังกล่าว อาศัยร่วมกับพ่ออายุ 100 ปี ซึ่งเคยเป็นทหารผ่านศึกมากก่อน โดยทั้งคู่ได้อาศัยในอาคารเก่าในเมืองเกาสฺยง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 เธอได้ปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปฉีดยาป้องกันโรคไข้เลือดออกภายในบ้านเธอ ทำให้เธอต้องถูกปรับเงินกว่า 60,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 6.8 หมื่นบาท)
แต่เธอก็ไม่ได้จ่ายค่าปรับแต่อย่างใด อีกทั้งเธอได้โกหกเจ้าหน้าที่ถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกอ้างเจ้าหน้าที่ว่า พ่อของเธออาศัยที่บ้านพักคนชราในมณฑลอันฮุย แต่เมื่อตำรวจไปค้นหากลับไม่เจอ ครั้งที่สองเธออ้างอีกว่าพี่ชายพาพ่อไปเที่ยวบ้านญาติที่จีน แต่ตำรวจสืบสวนพบว่าพี่ชายของเธอเสียชีวิตไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว และพ่อเธอไม่มีประวัติออกนอกประเทศ และการโกหกเจ้าหน้าที่ครั้งที่สาม ได้อ้างว่าพ่อเธอเสียชีวิตแล้ว กำลังขอใบมรณะบัตรจากจีน เธอได้ขอให้ตำรวจและอัยการให้เวลาเธออีกนิด
ทำให้ทั้งสำนักงานเขต สมาคมทหารผ่านศึก ตำรวจ รวมทั้งอัยการต่างจับพิรุธของหญิงสาวรายนี้ได้ จึงได้เริ่มสอบสวนเกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของพ่อเธอ ต่อมาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 ตำรวจและอัยการได้ทำการบุกค้นบ้านของเธอ และต้องตกตะลึง เมื่อพบศพของชายชราที่อยู่ในถุงขยะสีดำ สภาพเน่าเปื่อยและแห้งเป็นโครงกระดูกเรียบร้อยแล้ว สันนิษฐานว่าเป็นพ่อของหญิงสาวรายนี้
เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนเบื้องต้น รวมทั้งตัดประเด็นคนนอกออก เนื่องจากเธอมีอาการทางจิต และได้ถูกส่งไปรักษาอาการอย่างเข้มงวด เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า เธอได้ซ่อนศพของพ่อตัวเองหลังจากที่เขาเสียชีวิตเมื่อหลายปีการ เธออาศัยอยู่กับพ่อเพียงลำพัง จากคำให้การของเพื่อนบ้านวัยเกินร้อยปี ได้บอกว่า เขาเห็นเธอเข็นรถพาพ่อออกมาอาบแดดเมื่อสองปีก่อน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบชายชราอดีตทหารผ่านศึกอีกเลย
ทางอัยการสันนิษฐานว่า เนื่องจากพ่อของเธอเป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับเงินบำนาญทุกเดือน จึงได้ซ่อนอำพรางศพพ่อของเธอเพื่อขอรับเงินบำนาญของพ่อต่อไป แต่หากมองถึงแรงจูงใจที่แท้จริงและระยะเวลาที่พ่อเธอเสียชีวิตนั้นยังไม่แน่ชัด จึงต้องมีการสืบสวนต่อว่าหญิงสาวรายนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดทางอาญาหรือไม่ เช่น ฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร และการเหยียดยามศพ ซึ่งเรื่องที่ชวนสะเทือนใจก็คือ หญิงสาวรายนี้ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ หลังจากพ่อของเธอเสียชีวิต
พ่อค้าเจ้าของแผงผักระแวกบ้านหญิงสาว เปิดใจว่า เธอได้มาสั่งซื้อเนื้อแพะกับเขาในราคา 2,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 2.2 พันบาท) โดยตกลงว่าจะไปรับที่ตลาด แต่หาเจ้าตัวไม่เจอ จึงได้มาส่งเนื้อให้เธอที่บ้านแทน ซึ่งเธอได้ซื้อเนื้อแพะมาแล่บางกับเขามานาน 1-2 ปีแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเรื่องของพ่อเลย อาหารที่สั่งซื้อก็ไม่เคยให้มาส่งที่บ้าน รวมทั้งไม่เคยเห็นหน้าพ่อของเธอด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อากาศร้อนจัด ไฟไหม้รถในลานจอดสนามบิน 19 คัน จนท.คุมเพลิงได้แล้ว
- บทเรียนราคาแพง มหาลัยดังปฏิเสธ หนุ่มหัวกระทิเข้าเรียน พบประวัติทารุณกรรมแมวว่อนเน็ต
- ชื่นชมครูไหวพริบดี! นร.ล้มฟันหลุด 5 ซี่ กลับมาต่อใหม่ได้ เพราะน้ำนม
ที่มา : ETtoday