แม่หลังคลอด เปลี่ยนพุงย้วย เป็นซิกแพค แชร์เทคนิค ลด 40 กิโลใน 9 เดือน ทำยังไง
คุณแม่หลังคลอดเคยท้อแท้ว่าชาตินี้คงผอมไม่ได้ แต่ชีวิตเปลี่ยนได้ ถ้าลองทำตามทริคนี้จาก คุณแม่คริสเทล แซทเทอร์เดย์ จากเมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐฯ เธอเผยเคล็ดลับเล็กๆ แต่ได้ผลเห็นชัด ฟิตหุ่นจนน้ำหนักหายไปถึง 85 ปอนด์ (เกือบ 40 กิโลกรัม) ภายในเวลาไม่ถึง 9 เดือน เปลี่ยนจากพุงย้วย เป็นซิกแพคสุดแน่น
เคล็ดลับของคริสเทลคือ ไม่กินอาหารมื้อดึก ลดเครื่องดื่มของหวาน ควบคุมปริมาณอาหาร และออกกำลังกายด้วยการเดินเร็วสัปดาห์ละ 25-50 กิโลเมตร
ตอนแรกคริสเทลยอมรับชะตากรรม คิดว่าตัวเองจะเป็นคนอ้วนตลอดชีวิต แต่แล้ววันหนึ่งเหมือนมีสวิตช์มาเปิดไฟในหัว “ฉันต้องลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
“ฉันเบื่อกับข้ออ้างทุกอย่างแล้วก็เบื่อกับความรู้สึกแย่ๆ แบบนี้ ฉันอายุ 39 ปี มีลูกที่สมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากแม่” คริสเทลกล่าวต่อ “ช่วงนั้นท้อแท้ซึมเศร้ามาก แต่ตัดสินใจว่าจะแก้ทีละจุด ละอย่าง”
วิธีลดน้ำหนักของคุณแม่หลังคลอด
“ด่านแรกคือ เลิกกินดึก มือเย็นต้องกินอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเข้านอน” คุณแม่ลูกสองยังบอกอีกว่าครอบครัวของเธอ ประกอบด้วยสามีและลูกๆ 2 คน จะทานอาหารเย็นประมาณ 5 โมงครึ่งหรือหกโมงเย็น จากนั้นเธอก็จะไม่กินอะไรอีกเลยจนถึงเช้า
ตอนนี้ แซทเทอร์เดย์กลายเป็นดาวเด่นในอินสตาแกรม มีแฟนๆ ติดตามเกือบ 7 หมื่นคน จากการแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก เธอเริ่มต้นเมื่อมกราคม ปี 2023 ด้วยน้ำหนักราว 102 กิโลกรัม และผอมลงมาอยู่ที่ 63.5 กิโลกรัม ในเดือนตุลาคม
เธอเน้นอดอาหารแบบ IF 16:8 คืออดอาหารนาน 16 ชั่วโมงต่อวัน แล้วทานอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมงที่เหลือ โดยไม่ได้นับกาแฟที่ดื่มตอนเช้าเป็นการ “เริ่มกิน”
“ฉันจะอดอาหารจนถึง 10 โมงครึ่งเช้า ตอนหิวก็ดื่มแต่น้ำเปล่า ถ้ามีงานพิเศษก็จะยอมผ่อนผันบ้าง แต่ตอนนี้การอดอาหารแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติไปแล้ว”
เทคนิคลดน้ำหนักอื่นๆ ที่ คริสเทลใช้ควบคู่
- ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณคhttps://thethaiger.com/th/wp-admin/post-new.php?post_type=pageรึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัว (เป็นออนซ์) เช่น ถ้าหนัก 200 ปอนด์ ต้องดื่มน้ำ 100 ออนซ์ต่อวัน (ประมาณ 3 ลิตร)
- ตัดเครื่องดื่มหวานๆ ทิ้ง เหลือแค่วันละแก้วเดียว (ไม่นับกาแฟ)
- ติดตามปริมาณแคลอรี่ที่กินเข้าไป
- จำกัดน้ำตาลที่เติม ไม่เกินวันละ 30 กรัม
- เริ่มเวทเทรนนิ่งเพิ่มด้วย
ตอนนี้ แซทเทอร์เดย์ เปิดโปรแกรม “Commit to Change” เพื่อช่วยคนอื่นๆ ที่อยากลดน้ำหนัก ให้มีนิสัยการกินที่ดีอย่างที่เธอทำสำเร็จมาแล้ว
“มีคนอยากได้ความช่วยเหลือเยอะมาก ฉันก็รับผิดชอบต่อตรงนี้จริงจัง” เธอให้สัมภาษณ์ และเสริมว่า “ฉันบอกทุกคนเลยว่าไม่ได้เป็นเทรนเนอร์หรือโภชนากรนะ ฉันก็ไม่ใช่อินฟลูเอนเซอร์ ฉันแค่อยากช่วยเหลือผู้คนแบบใกล้ชิด ไม่ใช่มีอิทธิพลช่วงสั้นๆ แต่ให้เขามีเครื่องมือใช้ปรับเปลี่ยนชีวิตไปตลอด”
ที่มา : nypost
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง