เวลา 11.00 น วันที่ 8 ตุลาคม 2561 นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายทรงธรรมสุขสว่างผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติและที่เกี่ยวข้อง นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ร่วมติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดและระบบนิเวศปะการังบริเวณอ่าวมาหยาและการปลูกฟื้นฟูปะการังที่เสื่อมโทรมในพื้นที่บริเวณอ่าวมาหยา ตำบลอ่าวนางอำเภอเมืองกระบี่
นายจงคล้าย กล่าวว่า อ่าวมาหยา เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สวยงาม และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว จากกรณี กรมอุทยาน แห่งชาติ ได้ประกาศปิดอ่าวมาหยาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึง 30 กันยายน 2561 เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและระบบ และบริหาร จัดการพื้นที่อ่าวมาหยา ให้มีประสิทธิภาพ ลดความแออัดของนักท่องเที่ยว ช่วงปิด ได้ฟื้นฟู พบว่าปะการังมีเพิ่มมากขึ้น และระบบนิเวศมีการฟื้นตัว
แต่ปัญหาก่อนการปิดอ่าวนั้นคือหาดทรายบริเวณหน้าหาดของอ่าวมาหยา ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากตลอดปี และการถูกคลื่นซัด ทำให้ชายหาด ทรุดตัว นอกจากนี้มีสารเคมีบางชนิด เช่นครีมกันแดด ที่นักท่องเที่ยว ใช้ ทาตัว แล้วลงเล่นน้ำ และกระจาย ก็เป็นอีกสาเหตุ ที่เกิดปะการังฟอกขาว
ส่วนปัญหา ที่เกิดจากเรือรับส่ง นักท่องเที่ยว ที่ชายหาด จะเกิดฝุ่นทรายตลก ทับถม ก้อนปะการัง รวมทั้งการทิ้งสมอ จากการสำรวจพบว่าล่องลอยมีความเสื่อมโทรมแนวปะการัง บริเวณอ่าวมาหยา เป็นบริเวณที่เรือ ท่องเที่ยว วิ่งผ่านด้วย
สำหรับวิธีการดำเนินการฟื้นฟู บริเวณรอบอ่าวมาหยาได้แก่การปรับสภาพภูมิทัศน์ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้ชายหาดได้มีการเติมทรายธรรมชาติการปลูกไม้ป่าชายหาด เพื่อช่วยลดการพังทลายของสันทราย ปลูกไม้ชายหาดเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศสำรวจการกัดเซาะชายหาดสำรวจปะการังน้ำตื้นน้ำลึก บริเวณรอบอ่าวมาหยา
ซึ่งปะการังมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น ในช่วงที่ได้มีการประกาศปิดอ่าวมาหยา นอกจากนี้ยังพบการเข้ามาหากินของฉลามหูดำ Black tip reef shark ขนาดเล็กบ่อยขึ้น จำนวนมากขึ้น ซึ่งบ่งชี้ ว่าระบบนิเวศในอ่าวมาหยา เริ่มฟื้นตัวมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำขนาดเล็กที่เข้ามาอาศัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีการรบกวนจากกิจกรรมการท่องเที่ยว
ด้านนายวัฒน เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า วันนี้ ผู้ประกอบการ และชาวบ้านเกาะพีพี เดือดร้อน เรื่องการปิดอ่าวมาหยาของกรมอุทยานฯแบบไม่มีกำหนด กรมอุทยานฯต้องหาทางออกให้ ไม่ใช่สร้างภาพ ด้วยการนำสื่อไปดูการฟื้นตัวของปะการัง แล้วยังบอกว่ามีเกาะอื่นๆที่สามารถทดแทนอ่าวมาหยาได้
พร้อมกันนี้ยังจะมีการร่วมให้คนทั่วประเทศ โหวตว่าควรจะปิดหรือเปิดอ่าวมาหยา เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ ต้องการให้ปิดอ่าวมาหยา แน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่ ไม่ได้เป็นผู้เดือดร้อน คนที่เดือดร้อนคือคนเกาะพีพี เพราะเขาทำมาหากินกับอ่าวมาหยา นักท่องเที่ยวมากระบี่ต้องการเห็นอ่าวมาหยา ส่วนเกาะอื่นๆเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น
ที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วม ระหว่างจังหวัดกระบี่ ตัวแทนกรมอุทยานฯผูประกอบการท่องเที่ยวเกาะพีพี ชาวบ้านเกาะพีพี และภาคเอกชนในจังหวัดกระบี่ ซึ่งในที่ประชุม ก็มีมติร่วมกันว่าให้เปิดอ่าสมาหยาในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนใหคนเกาะพีพี ก่อน หลังจากหมดฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ก็ปิดแล้วมาว่ากันใหม่ว่าจะเอาอย่างไร
เพราะทางอุทยานฯเอง ได้ออกประกาศ ว่าจะเปิดอ่าวมาหยาในวันที่ 1 พ.ย.แล้วอยู่ๆมาประกาศปิดไม่มีกำหนด ทำให้การท่องเที่ยวเสียหายอย่างหนัก นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่น
- ติดตามเราได้ที่ :