‘ทวี ไกรคุปต์’ ล้มป่วย นอนห้องไอซียู ล่าสุดอาการทรงตัว
ทวี ไกรคุปต์ ล้มป่วย นอนห้องไอซียูสมอง ที่โรงพยาบาลราชบุรี ล่าสุดอาการทรงตัว ขณะที่ลูกสาวโพสต์ถึงพ่อ เป็นคนดี สัญญาจะไม่โทรไปกวนพ่อแล้ว
จากที่มีกระแสข่าวว่า นาย ทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.พาณิชย์ อดีต รมช.คมนาคม และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี ล้มป่วย ล่าสุดสำนักข่าวผู้จัดการ รายงานว่า นายทวี ไกรคุปต์ ล้มป่วยที่บ้านในไร่ อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ญาติได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กทม. ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา อาการยังทรงตัว
โดยญาตินำตัวนายทวี ไกรคุปต์ กลับมารักษาโรงพยาบาลราชบุรี ที่ห้องไอซียูสมอง โดยมีญาติเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ขณะที่ก่อนหน้านี้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงพ่อระบุว่า “มีคนพูดว่า การอยู่กับคนแก่เหมือนจะบาป จะตกนรกหมกไหม้ หากคนที่อยู่ไม่มีความใจดี หรือความเข้าใจ
ประเทศไทยไม่เหมือนสหรัฐตรงเรื่องคนขับรถนาย เพราะในไทยหากใครขับรถให้นักการเมืองจะมีpower บางครั้งอาจอำนาจเหนือผู้กำกับหรือนายอำเภอหรือไม่อย่างไร ตรงข้ามสหรัฐที่คนขับรถจะเป็นอย่างอื่นมิได้นอกจากโชเฟอร์
เมื่อคุณพ่อชอบขับรถและลูกๆ รวมถึงทั้งประเทศไทยไม่อยากให้พ่อขับรถ สุดท้ายพ่อก็ไม่ขับรถ โดยที่ผ่านมาคุณพ่อมีคนขับหลายคน โดนพักงานไปหลายคน คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า คุณพ่อโดนคนขับรถเอ็ด คุณพ่อโกรธและเครียดที่สุดมาบ่นให้ปารีณาฟัง ใครผิดถูกไม่สำคัญไปกว่า ก็รู้อยู่ว่าพ่ออายุ 88 หูตาการเดินการพูดจาจะเชื่องช้าต้องใจเย็น ไม่ชอบไม่ต้องขับ
ทั้งนี้ อย่าเหมารวมเพราะคนขับดีๆก็มี คุณพ่อชื่นชม ชำนาญ กับทราย ไม่เคยว่าให้ฟังแม้แต่ครั้งเดียว. นอกนั้นถูกต่อว่าเล็กน้อย ส่วนไอ้ชาติชั่วหรือไอ้เทพ ไล่ออกไปแล้วยังไม่จบ
เพราะครั้นไล่ออกไปแล้วยังกลับมาเจอกัน ไม่พอใจก็ไม่ทิ้งสันดาน ปฏิบัติไม่ดีกับพ่อ เจ็บกว่าพ่อคือลูก ต้องทำใจ แต่ต้องยอมรับเพราะสังคมมันเป็นแบบนี้ ที่คนชรามักเป็นเหยื่อของการถูกบูลลี่ ในหลายๆรูปแบบ
คุณพ่อเป็นคนดี เป็นนักพัฒนา ไฟฟ้า ลาดยาง ต่อต้านคอรัปชั่น และรักประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุข คุณพ่อเป็นคนเก่งสอนให้ปารีณา อดทน ขยัน ไม่มีจน คุณพ่อให้การศึกษาที่ดี ให้อยู่สังคมที่ดี ให้เงินทอง ให้ทรัพย์สินมากมาย ชีวิตไปได้ดี แต่ไปสะดุดที่ดินผืนเดียวพ่อให้มาเช่นเดียวกัน
พ่อบอกลูกไม่ผิด ลูกถูกกลั่นแกล้ง และพอลำบากก็ไม่มีใครคิดช่วยคือสัจธรรม พ่อบอกผลประโยชน์หมดก็จบกันไป
เคยศูนย์เสียจนเสียศูนย์ เคยเสียตัวและเสียใจ อยู่ลำพังกับลูกชาย กับภาระค่าใช้จ่ายลูกเพียงคนเดียวตั้งแต่เดือนตุลาคม รับภาระค่าใช้จ่ายคุณพ่อในการรักษาพยาบาลคนเดียว รับภาระหนี้สินของคุณพ่อที่ธกส คนเดียว (ดอกเบี้ย7%) รับภาระหนี้สินของคนในครอบครัวคนเดียว(ดอกเบี้ย0% ผ่อนชำระต้นเท่านั้นกู้เพื่อนคุณพ่อที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันมาให้คนในครอบครัว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนด) อีกทั้งเลือกตั้งซ่อมสสต้องเตรียมจ่ายค่าเลือกซ่อมอีก 7.6 ล้าน ภาระค่าใช้จ่ายในการทำเล้าไก่
พ่อพูดเสมอว่าปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้เครียด พ่อก็มาหามาให้กำลังใจที่กาญจนบุรีตลอด พ่อเคยบอกว่ามีลูกสาวนี่เหนื่อย ลูกต้องเด็ดขาด ลูกน้องจะฟัง ถ้าพูดไม่ฟังต้องไล่ออก ไม่ใช่ให้พ่อโทรไปด่าคนต่างๆ ต้องเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา โทรจนพ่อบอกว่า “เอานะ ขี้ไม่ออกก็โทรมา” และสุดท้ายพ่อก็เอามะขามมาฝาก
ตอนนี้เอ๋เก่งและเข้มแข็งมากจะไม่โทรไปกวนแล้วนะ แต่เอ๋รู้ว่าพ่อก็ยังเป็นห่วงจึงได้วนเวียนมาหาเอ๋ตลอดทุกวัน”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง