ไม้ล้มทับบ้านพังทั้งหลังกลางดึก เจ้าของบ้านหนีตายวุ่น
กระบี่ – ไม้ล้มทับบ้านพังทั้งหลังกลางดึก เจ้าของบ้านหนีตายวุ่น ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม 3 อำเภอ คลี่คลาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 138 บ้านคลองทราย หมู่ 4 ต.เขาทอง อ.เมือง หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกต้นไม้ขนาดใหญ่อายุมากกว่า 50 ปี ล้มทับบ้านเสียหายทั้งหลัง
เนื่องจากลมพัดกรรโชกแรงเมื่อช่วงดึกของวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา พบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียวของนางวรรณา หวังล่า อายุ 56 ปี สภาพบ้านถูกต้นโพธิ์ทะเล ขนาดใหญ่ 5 คนโอบ โค่นล้มจากเนินเขาด้านหลังบ้าน ล้มทับบ้านเสียหายเกือบทั้งหลัง
นอกจากนี้ไม้ยังล้มทับรถยนต์ฟอร์ดสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กท 7121 กระบี่ พังยับทั้งคัน รถกระบะยี่ห้อนิสสันตอนเดียว สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บจ 6259 กระบี่ เสียหายบางส่วน รถ จยย.เสียหายอีก 3 คัน ชาวบ้านต้องช่วยกันนำรถแบ็คโฮขนาดเล็ก และเลื่อยยนต์ มาช่วยกันเคลียร์ซากต้นไม้ออก มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นร่วม 2 ล้านบาท
นายสุริยา ดำหาย อายุ 19 ปี หลานชายของนางวรรณา เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาขณะที่นางวรรณา ซึ่งเป็นยาย พร้อมด้วยนางมารีน่า แขกดี อายุ 39 ปี แม่ของตน และน้องอีก 2 คน รวมทั้งตน ด้วย 5 คน กำลังนั่งดูทีวีอยู่ภายในห้องโถงของบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงลมพัดแรง และมีเสียงต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดลั่นอยู่หลังบ้าน จึงออกมาดู ก็พบว่าต้นไม้กำลังจะล้มเนื่องจากถูกลมพัดแรง จึงรีบบอกให้ทุกคนในบ้านวิ่งหนี
จากนั้นไม่ถึง 1 นาที ต้นไม้ขนาดใหญ่ก็ล้มฟาดลงมาที่ตัวบ้านบริเวณที่ทุกคนกำลังนั่งดูทีวี เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีทุกคนหนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด โดยแม่และยายของตนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าจึงพาส่งรักษาตัวที่ รพ.กระบี่
เบื้องต้นทาง อำเภอเมืองกระบี่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บข้อมูลเพื่อรายงานให้ ปภ.จังหวัดทราบ และเตรียมช่วยเหลือเยียวยา ขณะที่พื้นที่ 3 อำเภอ ที่ถูกน้ำท่วมประกอบด้วย อ.เขาพนม อ.คลองท่อม และ อ.เหนือคลอง
พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ พร้อม พ.อ.ธายุทธ สวนกูล ผบ.ร.15 พัน 1 นำเจ้าหน้าที่ ปภ.จ.กระบี่ และทหารจากค่าย ร.15 พัน 1 เข้าตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือนราษฎรบริเวณ ต.พรุเตียว พร้อมนำถุงยังชีพไปแจกให้ผู้ประสบภัย
โดยสถานการณ์น้ำลดระดับเข้าสู่ภาวะปกติ ปภ.จ.กระบี่ สรุปสถานการณ์พื้นที่ประสบภัย 39 หมู่บ้าน ใน 9 ตำบล มีราษฎรเดือดร้อน 850 คน 380 ครัวเรือน แต่ยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม อย่างต่อเนื่อง