ไม่อยากป่วยมะเร็ง อย่ากินอาหารเหล่านี้ในตู้เย็น อายุน้อยก็ไม่รอด
หมอเล่าเคส หญิงสาววัย 28 ตรวจร่างกายพบมะเร็งกระเพาะระยะกลาง สืบประวัติ มีพฤติกรรมกินอาหารเหลือค้างในตู้เย็น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน หญิงสาววัย 28 ปีในประเทศจีนมีอาการปวดท้อง ท้องอืด และอาเจียนอย่างรุนแรง เมื่อไปพบแพทย์ เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะกลาง แพทย์ได้สอบถามหาสาเหตุเพิ่มเติมและพบว่าหญิงสาวรายนี้ประหยัดเงินด้วยการกินอาหารเหลือจากตู้เย็นเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำร้ายระบบทางเดินอาหาร
หมอเตือนว่าตู้เย็นไม่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ทั้งหมด การเก็บอาหารไว้เป็นเวลานานอาจทำให้จุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายเช่น อีโคไล สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส หรือเชื้อราเจริญเติบโต ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะยาว
ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารหลายรายมักเข้าสู่ระยะกลางและระยะสุดท้ายแล้วกว่าจะได้รับการวินิจฉัยหรือตรวจพบ (เช่นเดียวกับเหตุการณ์ของอาม่า ในหนังเรื่องหลานม่า ของ GDH) ทำให้พลาดโอกาสในการรักษาให้หาย จึงขอเตือนว่าหากใครมีอาการท้องอืดหลังรับประทานอาหาร ปวดท้องอย่างต่อเนื่อง โลหิตจางโดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออุจจาระเป็นสีดำ ควรไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อหาสาเหตุของอาการ
กินอาหารเหลือค้างในตู้เย็น เสี่ยงเป็นมะเร็งจริงไหม
ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยางการแพทย์รับรองอย่างเป็นทางการว่า การกินอาหารเหลือค้างในตู้เย็นเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งโดยตรง แต่มีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องระวัง เพราะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ หรือโรคอื่น ๆได้ เพราะ อาหารที่เก็บรักษาไม่ถูกต้อง เช่น อุณหภูมิไม่เย็นพอ หรือเก็บไว้นานเกินไป อาจมีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ปนเปื้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ แต่อาหารเป็นพิษไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเกิดมะเร็ง
อาหารแปรรูปบางประเภท เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ปลาหมึกแห้ง เมื่อผ่านความร้อนซ้ำหลาย ๆ ครั้ง อาจเกิดสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ปริมาณของสารไนโตรซามีนที่เกิดขึ้นนั้นน้อยมาก และความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งก็ยังมีไม่ชัดเจน ทว่าจากข้อมูลการแพทย์ที่เก็บข้อมูลพบว่า พื้นที่ประเทศที่นิยมกินอาหารสัตว์แปรรูปมีความชุกต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อปี 2562 องค์การอนามัยโลกออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า เนื้อแดง และเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น เบคอน แฮม ไส้กรอก ซาลามี่ เนื้อกระป๋อง เป็นอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
ดังนั้นเมื่อบวกกับการนำอาหารแปรรูปไปแช่ตู้เย็นจนเลยวันที่ควรรับประทาน เอามาอุ่นทางต่อ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้
เนื้อสัตว์แปรรูปกับความเสี่ยงมะเร็ง
แม้ว่าเบคอนกรอบๆ หรือฮอทดอกชุ่มฉ่ำจะเป็นอาหารเช้าแสนอร่อย แต่เนื้อสัตว์แปรรูปเหล่านี้กลับมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงมะเร็งที่เพิ่มขึ้น เพราะในกระบวนการแปรรูป เนื้อสัตว์จะถูกถนอมอาหารด้วยวิธีต่างๆ เช่น การรมควัน การดอง การใส่เกลือ หรือการใส่สารเคมี ถึงแม้ว่าวิธีการเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการเก็บรักษา แต่ก็อาจนำไปสู่การเกิดสารอันตรายบางชนิด สารเหล่านี้ เช่น สารประกอบ N-nitroso (ไนโตรซามีน)
ไนโตรซามีนสามารถทำลาย DNA ของเรา ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ เป็นจุดเริ่มต้นของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
การวิจัยชี้ให้เห็นว่า การกินเนื้อสัตว์แปรรูปเพียงวันละ 1 มื้อ (ประมาณ 50 กรัม) สามารถเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ถึง 18%
ถึงแม้ว่าสาเหตุที่แน่ชัดยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ทฤษฎีบางประการชี้ว่า สารไนโตรซามีนและสารเคมีอื่นๆ จากเนื้อสัตว์แปรรูปอาจไประคายเคืองเยื่อบุลำไส้ หรือรบกวนแบคทีเรียในลำไส้
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องงดเนื้อสัตว์แปรรูปทั้งหมด เพียงแต่ควรจำกัดปริมาณการกิน และเน้นไปที่เนื้อสัตว์สด ปลา ไก่ และแหล่งโปรตีนจากพืชแทนครับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มจีน ให้เงินลุงรักษามะเร็ง แต่กลับได้ ถุงผัก เซอร์ไพร์ส จนน้ำตาแตก
- สาวปัสสาวะเป็นหนอง หลังปวดท้องเรื้อรัง เปิดภาพเอกซ์เรย์ถึงกับช็อก
- มะเร็งปอดในภาคเหนือ วิกฤต ผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 7 คนต่อวัน เสียชีวิต 5 คนต่อวัน