ร้านชาบูเดือด เตรียมแจ้งความ ลูกค้าเจอทิชชู กู้ชื่อร้าน-ปกป้องพนักงาน
ผู้จัดการร้าน เฉลยเหตุการณ์ทั้งหมด ปมลูกค้าโวยพบทิชชู่ในหม้อ-ปูอัดมีรสเปรี้ยว คดีพลิกเหมือนเล่าเทปคนละม้วน เตรียมปรึกษาทนายดำเนินคดีกับลูกค้ากลุ่มนี้
เมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 นางสาวดวงกมล พุ่มมณี ผู้จัดการร้าน ชาบู&ปิ้งย่าง Dragon grill สาขาสนามบินน้ำ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่ไปสัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้เข้าไปขอโทษและรับผิดชอบด้วยการเสนอเปลี่ยนหม้อให้ใหม่ทันที หลังจากลูกค้าโต๊ะดังกล่าวโวยพบทิชชู่ในหม้อต้ม แต่ลูกค้าปฏิเสธและจึงนั่งทานต่อ จากนั้นก็บอกกับพนักงานว่า ปูอัดที่สั่งมามีรสชาติเปรี้ยว ก่อนจะเช็คบิลแล้วเดินหนีออกจากร้านไป
ผู้จัดการร้าน เล่าเสริมว่า ปูอัดดังกล่าว ตนได้นำมาลองชิมก็พบว่าไม่ได้เสียแต่อย่างใด ยืนยันว่าวัตถุดิบของทางร้านสะอาดได้มาตราฐานและจัดเก็บแช่เย็นเป็นอย่างดี
กรณีปมทิชชู่ ลูกค้าได้จ้ำเท้าเดินหนีออกไปก่อนที่ตนจะเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดตัวเต็มให้ดู เมื่อมาตรวจสอบโต๊ะของลูกค้าจึงพบว่า เหลืออาหารเยอะมาก หากอ้างอิงตามกฎระเบียบร้าน จะสามารถขอปรับได้หัวละ 100 บาท ถ้าเหลืออาหารไว้จำนวนมาก แต่ทางร้านไม่คิดจะปรับค่าชาบูกับเด็กที่มาด้วย โดยจะคิดค่าปรับแค่ผู้ใหญ่ 2 คน เท่านั้น
ท้ายที่สุด นางสาวดวงกมล พุ่มมณี ได้ตัดสินใจจะปรึกษากับทนายความว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่างไร หลังจากลูกค้าขาดการติดต่อเข้ามาขอโทษหรือชี้แจงในประเด็นนี้ต่อไป
กระทั่ง ทางร้าน Dragon grill ชาบู&ปิ้งย่าง ได้โพสต์ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก เมื่อเวลา 1.08 น. วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 ขอดำเนินคดีกับลูกค้าที่โวยในร้านว่าพบทิชชูในหม้อและอ้างว่าปูอัดรสชาติเปรี้ยว ก่อนจะชิ่งหนีหายไปจากร้าน เหลืออาหารไว้เต็มโต๊ะ เบี้ยวค่าปรับกินไม่หมด โดยทางร้านได้ระบุข้อความไว้ตามเอกสารนี้ว่า
เอกสารชี้แจงจากร้าน “ดราก้อน กริว”
จากกรณีที่ทางบริษัทหรือร้าน Dragon Gril ชาบู & ปิ้งย่าง ได้มีการโพสต์รูปและวีดีโอชี้แจงเหตุการณ์ตามข้อเท็จจริงไปเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ผ่านช่องทาง Facebook เพจร้าน Dragon Grill ชาบู & ปิ้งย่าง ในกรณีที่มีลูกค้าแจ้งกับทางผู้จัดการร้านว่ารสชาติอาหารดู ผิดปกติ และ มีทิชชู่อยู่ในหม้อชาบู ได้ต่อว่าพนักงานและร้านอย่างเสียงดัง ในขณะที่มีลูกค้าท่านอื่นนั่งรับประทานอยู่ในร้านต่อมาทางบริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกล้องวงจรปิดจากผู้จัดการและพนักงาน จึงเห็นการกระทำดังกล่าวของลูกค้าท่านนี้
ทางบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องออกมาปกป้องพนักงาน ชื่อเสียงของร้านและอธิบายข้อเท็จจริงให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในขณะนั้นทราบ เพราะในเหตุการณ์มีลูกค้าบางส่วนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้และขาดความเชื่อมั่นในร้าน และอาจสร้างความเข้าใจผิดให้ลูกค้าท่านอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบกับร้านในทางลบ
ดังนั้น การกระทำดังกล่าวทำให้บริษัทได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง และความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของร้าน บริษัทจึงขอแสดงจุดยืน เพื่อปกป้องคุ้มครองพนักงาน ชื่อเสียงของร้าน และเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับคืนมา เมื่อข้อเท็จจริงได้ปรากฏชัดว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้กล่าวหามา
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อไป นอกจากเป็นการใช้สิทธิ์ตามที่กฎหมายรับรองหรือคุ้มครองให้แล้ว ก็เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้บุคคลใดๆ มีการกระทำดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นนี้แก่บริษัทและร้านค้าอื่นๆอีก บริษัทและพนักงานทุกคนขอขอบคุณสำหรับลูกค้าและผู้ที่ติดตามเรื่องนี้ ที่เป็นกำลังใจและส่งข้อความมาอย่างล้นหลามหากขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ บริษัท เอชดีจี เรสโตรองต์ กรุ๊ปจำกัด
ชายปริศนา คาดเป็นลูกค้าในคลิป โพสต์แซะไม่สำนึก
จากการสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า ได้มีหนึ่งในผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง คาดการณ์ว่าจะเป็นบุคลในคลิปดราม่าร้านชาบูคนดังกล่าว โพสต์ข้อความข่มขู่ทุกคนที่โพสต์ด่า หรือจะเอาเรื่องตนว่าจะขอแคปชั่นรูปฟ้องกลับเช่นกัน
“ใครที่ด่าหรือว่าอะไรเขา ขอให้ด่ามาเยอะ ๆ จะได้แคปเอาไปฟ้องมัดรวมกันทีเดียว พวกคุณไม่ได้กินอาหารกับผม เลยคิดกันไปใหญ่”
แม้ว่ากระแสส่วนใหญ่ของชาวเน็ตจะเชียร์ฝั่งร้านชาบู ว่าให้รวมตัวผู้เสียหายที่เคยเจอลูกค้ารายนี้ ฟ้องดำเนินคดีให้หลาบจำ แต่ด้านลูกค้าจะออกมายอมรับหรือปฏิเสธอะไรบ้าง คงต้องรอรายงานความคืบหน้าต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง