อุทาหรณ์ ลูกสาวจัดฉากอัดคลิปมัดมือเท้า ออกอุบายถูกจับเรียกค่าไถ่ 1 แสนบาท ลงทุนเช่าโรงแรมก่อนส่งคลิปให้คนเป็นพ่อหวังหลงเชื่อ โอนเงินไถ่ตัว สารภาพติดพนันออนไลน์หนัก
วันนี้ (5 เม.ย.67) เฟซบุ๊กเพจ เจ๊ม้อย v-news มีการลงคิปเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 30 ปี กุเรื่องถูกจับเรียกค่าไถ่ 1 แสนบาท ก่อนส่งคลิปถูกปิดปาก-มัดมือให้คนเป็นพ่อ จนสุดท้ายทางครอบครัวต้องไปโร่แจ้งความกับ ตำรวจสอบสวน สภ.บางศรีเมือง
ข้อความจากโพสต์คลิปดังกล่าว ระบุ “อย่าหาทำค่ะ ทรงนี้คืออาการหนัก ระดับ 10 ผีพนันเข้าสิงไม่สิงแบบธรรมดานะคะ คือสิงแบบสิงสถิตย์ไม่ยอมไปไหน สิงจนกู่ไม่กลับ สิงแบบยอมตายกันไปข้างนึง ถึงขนาดยอมโกหกพ่อแม่ว่าตัวเองโดนจับเรียกค่าไถ่ จัดฉาก มัดมือมัดเท้าเอง มัดปากเอว แล้วบอกขอค่าไถ่ 100,000 นึง ส่งคลิป แชท ให้พ่อแม่ดู”
“พ่อแม่ป็นห่วง ให้ตำรวจช่วย สุดท้ายเจอตัว ยอมรับว่าติดเล่นเว็บพนันออนไลน์ BNK จนหมดตัว จำนำรถ ไม่พอกู้เงินนอกระบบอีก 4 เจ้า สภ.บางศรีเมือง นนทบุรี”
ทั้งนี้ รายงานจากข่าวสด ทราบชื่อหญิงคนดังกล่าว “น.ส.ส้ม” อายุ 30 ปี ได้ประสานกับทาง พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คําบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จนพบว่าตำแหน่งสัญญาณที่คนร้ายส่งคลิปข่มขู่มาเรียกเงินค่าไถ่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจสอบห้องพักภายในโรงแรม กลับพบ น.ส.ส้ม สาวที่ถูกอ้างว่าถูกจับไปเรียกไถ่ พักอาศัยอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียวตามลำพัง สภาพเนื้อตัวไม่ได้มีการถูกพันธนาการใด ๆ ทั้สิ้นเหมือนกับคลิปที่ถูกส่งมา
นอกจากนี้ ยังไม่มีบุคคลอื่น ๆ หรือคนร้ายที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวหญิงสาวมาทำการสอบสวน จนสุดท้าย น.ส.ส้ม ให้การรับสารภาพ เธอเองเป็นคนออกอุบายถูกโจรลักพาตัวเรีกค่าไถขึ้นมาเอง เหตุผลที่ทำลงไปก็เพราะหวังจะหลอกเงินจาก นายต้น ผู้เป็นพ่อ ด้วยการมาเช่าห้องพักของโรงแรมและจัดฉากด้วยการนำเทปกาวมามัดมือ มัดปากตัวเองให้เหมือนกับถูกคนร้ายจับตัวมาเรียกค่าไถ่ จากนั้นถ่ายคลิปส่งไปให้พ่อเพื่อให้หลงเชื่อ โอนเงินจำนวน 1 แสนบาทมาให้ เนื่องจากตนติดการพนันออนไลน์อย่างหนัก ทำให้ต้องเอารถไปจำนำ และกู้เงินนอกระบบอีกหลายเจ้ามาหมุนใช้ กระทั่งหมุนเงินไม่ทันจึงตัดสินใจทำเรื่องดังกล่าวขึ้นมา
สำหรับความผิดของ น.ส. ส้ม เข้าข่ายฐานความผิดพยายามฉ้อโกง แต่เรื่องนี้สามารถเจรจายอมความกันได้ หากทางผู้ปกครองไม่ติดใจเอาความ
อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุยังคงมีความผิดในฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้เจ้าหน้าที่เตรียมส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตาลักพาตัวหลาน 4 ขวบ ติดพนันหนัก เรียกค่าไถ่ 2 ล้าน ถ้าไม่จ่ายจะฆ่าทิ้ง
- หักมุม เก๋งเดือดมอเตอร์ไซค์ บนถนนประเทศจีน เคลียร์กันไม่ได้ จัดฉากเองซะเลย
- สยอง! ฝนตกเป็นหนอน ชาวเน็ตถกจริงหรือจัดฉาก? (คลิป)
