เด็ก 15 คลอดลูกในห้องน้ำ ไม่รู้ท้องอย่างไร ช็อกที่แท้ฝีมือตาตัวเอง
ช็อก เด็ก 15 คลอดลูกในห้องน้ำ ไม่รู้ท้องอย่างไร ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ก่อนจะทราบความจริงสุดช็อก ว่าเป็นฝีมือตาตัวเอง ทำมาตั้งแต่ ป.4
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งเกิดเหตุ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง คลอดลูกในห้องน้ำที่บ้านยายที่เลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดย น.ส.เอ ไม่ทราบว่าท้องได้อย่าง ทั้งที่ไม่เคยมีแฟน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.หนองบัวลำภู ตามที่ได้รับแจ้งมาว่า น.ส.เอพักรักษาตัวหลังคลอดอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ โดยมียายกับน้าคอยดูแลอยู่ เมื่อไปถึงพบ นางไหม (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ยายของ น.ส.เอ กับ นายกร (นามสมมติ) น้าชาย โดยนายกรซึ่งเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดหลังจากทราบเรื่องของหลานสาว
นางไหม เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนเข้าไปพบหลานสาวนอนชักลิ้นจุกปากอยู่ในห้องน้ำ มีทารกเพศหญิงแรกคลอดอยู่ในถุงพลาสติก โดยมีสายสะดือและรกอยู่ในถุงด้วย เมื่อพบเหตุการณ์ตกใจมาก จึงรีบร้องเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยเหลือนำตัวหลานสาวส่งโรงพยาบาล
ตนเลี้ยงดูหลานสาวมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ พร้อมกับด.ญ.บี (นามสมมติ) น้องสาวพ่อแม่เดียวกัน ซึ่งเกิดจากลูกสาวคนที่ 2 ของตนและได้มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนด.ญ.บีเพิ่งจะเข้าเตรียมอนุบาล โดยมี นายยอ (นามสมมติ) อายุ 60 ปี สามีคนปัจจุบันช่วยเลี้ยงดูมาตั้งแต่ต้น
หลังจากถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการช่วยเหลือตัดสายสะดือและช่วยชีวิต 2 แม่ลูก ภายหลังตนจึงพยายามตะล่อมถามหลานสาวว่า ท้องเมื่อไหร่ ท้องกับใคร แต่หลานกลับนิ่งเงียบไม่ยอมพูด ตนถามเท่าไหร่ก็ไม่บอก จึงจนปัญญาทำอะไรไม่ได้
ปกติหลานแต่งตัวคล้ายทอม มักจะทำงานช่วยตนทุกอย่าง จนได้รับรางวัลเด็กยอดกตัญญู เนื่องจากทำงานหนักเหมือนเด็กผู้ชาย จนเพื่อนบ้านกล่าวชม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเด็กครบกำหนดใกล้คลอด รูปร่างของมารดาไม่เปลี่ยนแปลงหรือมีหน้าท้องใหญ่โตพอที่จะรู้ได้ว่า กำลังตั้งครรภ์หรือ นางไหม กล่าวว่า ปกติทุกอย่าง ไม่เห็นพุงยื่นออกมาเลย ก่อนจะคลอดก็เห็นมีหน้าท้องเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่เนื่องจากเด็กชอบใส่เสื้อผ้ารุ่มร่ามจึงมองไม่ออก
วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้แจ้งให้แม่ของเด็กไปแจ้งเกิดที่ฝ่ายทะเบียน ที่ว่าการอำเภอแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาล ตนจึงพาหลานเดินไปที่ที่ว่าการอำเภอ ประมาณช่วงเที่ยงเพื่อจะไปแจ้งสำนักทะเบียนขอใบเกิดสำหรับ ทารกเกิดใหม่ ซึ่งเป็นลูกสาวของหลาน
เมื่อเดินทางจะถึงตัวที่ว่าการอำเภอ บังเอิญสวนกันกับรถของ ส.ต.ต.ชัยวัฒน์ อินอ่อน นายอำเภอ ท่านเลยมาซักถามจนทราบว่าหลานสาว อายุ 15 ปี ท้องไม่มีพ่อ รู้สึกผิดปกติ จึงประสาน พ.ต.อ.พีรศักดิ์ ชัยชนะโชติสิน ผกก.สภ.สุวรรณคูหา ให้หาข้อมูล โดยบอกสองยายหลานว่าจะให้ตำรวจไปดูแล
เมื่อตนกลับบ้านพักพบนายยอสามี จึงบอกว่าได้กล่าวเตือนนายยอให้เก็บบ้านให้สะอาดเพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาที่บ้าน นายยอจึงบอกว่าจะไปวางกับดักสัตว์ที่ทุ่งนาแล้วหายตัวไป ยังติดต่อไม่ได้
ด้าน นายกร กล่าวว่า หลังทราบเรื่องจากนางไหมแม่ของตน จึงพยายามสอบถามหลานเรื่องพ่อของเด็ก แต่หลานไม่ยอมบอก ภายหลังตนได้กระซิบบอกหลานว่าถ้าไม่กล้าพูดก็ให้พิมพ์หรือแชทบอกก็ได้
เมื่อตนกลับถึงบ้าน แม่ของหลานสาวได้แชทบอกว่า หนูจะบอกว่าใครทำแต่พ่อ (น.ส.เอเรียกนายกรน้าชายว่าพ่อ) อย่าบอกใครนะ หนูกลัว ตายอแกทำหนูตั้งแต่หนูอยู่ ป.4 จนถึง ม.3
จากนั้นผู้สื่อข่าว จึงพานางไหมและนายกรไปที่สภ.สุวรรณคูหา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พ.ต.อ.พีรศักดิ์ ได้ลงมารับเรื่องและชี้แจงเบื้องต้นว่า ตนทราบรายละเอียดคร่าว ๆ แล้ว จากการที่นายอำเภอแจ้งมา และได้ออกตรวจสอบเบื้องต้น
จึงขอแจ้งแนวทางปฏิบัติของตำรวจให้ญาติของน.ส.เอได้รับทราบว่า เนื่องจากคดีนี้ ไม่ใช่เหตุเกิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ต้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน และรอสอบปากคำ น.ส.เอ ร่วมกับสหวิชาชีพ ก่อนจะออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากนั้นจึงเดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุซึ่งอยู่ในตำบลหนึ่งในอ.สุวรรณคูหา โดยนางไหมได้ชี้ที่พักหลับนอนของตนและหลานสาวทั้งสองว่า นอนอยู่หน้าห้องโถงใหญ่ในบ้าน โดยตอนกลางคืนจะมีห้องที่มีประตูมิดชิดให้นายยอนอนอยู่คนเดียว จากนั้นจึงพาไปดูตัวห้องน้ำซึ่งน.ส.เอไปเข้าห้องน้ำแล้วเกิดคลอดลูกออกโดยไม่ได้ตั้งใจ
พ.ต.อ.พีระศักดิ์ กล่าวว่า ให้นางไหมแจ้งให้นายยอผู้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยมามอบตัวเพื่อพูดคุย เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับ จึงยังไม่มีอำนาจจับกุม หากนายยอเข้ามามอบตัวให้การ ก็จะเป็นประโยชน์กับตัวนายยอเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสังเกตท่าทีของนางไหม แม้จะบอกกับผู้สื่อข่าวว่า หากทราบว่า นายยอเป็นผู้ลงมือก่อเหตุกับหลานสาวของตน ก็จะไม่ยกโทษให้ จะเอาเรื่องจนถึงที่สุด แต่เมื่อพูดไปแล้ว นางไหมก็มักพูดขึ้นมาว่าปกตินายยอเป็นคนดี เลี้ยงดูหลานสาวทั้งสองมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่น่าเป็นไปได้
นางไหม กล่าวต่อว่า ตามที่สังเกตก็ไม่เคยเห็นอะไรผิดปกติ ทั้งตนก็ไม่เคยปล่อยให้หลานอยู่ตามลำพังกับนายยอแม้แต่ครั้งเดียว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แต่เมื่อพูดๆ ไป นางไหมก็พูดออกมาว่า หากนายยอถูกจับใครจะดูแลครอบครัวเลี้ยงดูพวกตน เนื่องจากเบี้ยคนชราที่นางไหมได้รับแค่เดือนละ 600 บาท ไม่สามารถจะเลี้ยงดูกันได้
ขณะที่ พ.ต.อ.พีระศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางของตำรวจตอนนี้คือ จะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของเด็ก เพื่อตรวจสอบกับผู้ต้องสงสัยเบื้องต้นไว้ก่อน สำหรับตัวนายยอที่น.ส.เอระบุในแชทว่าเป็นผู้ลงมือย่ำยีตนเองนั้น สายข่าวรายงานว่า นายยอยังกลับเข้ามาที่บ้านเป็นบางครั้ง ก่อนจะหลบออกไป น่าจะป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักนัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง