‘อัจฉริยะ’ นำทีมทนายบิ๊กต่อ จี้ ปปง. ปมเส้นเงินหลุด ‘ทนายตั้ม’ โต้พูดเป็นหนังการ์ตูน
เดือดกันต่อ อัจฉริยะ นำทีมทนาย บิ๊กต่อ ฟ้องหมิ่น ทนายตั้มแฉส่วย จี้ ปปง. ตำรวจตรวจฟอกเงิน ปมเส้นเงินหลุด ต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง
มหากาพย์แฉส่วยตำรวจ ล่าสุด บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการำตำรวจแก่งชาติ ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ามาดูแลในฐานะทีมทนายความ
อ้างอิงข้อมูลจากอมรินทร์ทีวี นายอัจฉริยะ อ้างตนเองได้ข้อมูลมาว่า หน่วยงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเงิน คือ “สำนักงาน ปปง.” หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินการในคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน แต่ในเมื่อบิ๊กต่อไม่เคยถูกร้องทุกข์กล่าวโทษแม้แต่คดีเดียว นายอัจฉริยะ จึงตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใด ปปง. หรือข้าราชการจึงเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ดังนั้น จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองเพราะถือว่าร่วมกันเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบหรือไม่
นายอัจฉริยะ ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่ไปละเมิดสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น ต้องถามว่ากระทำโดยชอบหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น เข้าไปสืบค้นทะเบียนราษฎร์ 1 วัน จำนวน 20 ครั้ง หรือเข้าไปสืบค้นข้อมูลส่วนตัวของภรรยาใครจำนวน 40 ครั้ง มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีทั้งเจ้าที่สำนักงานเขต จากนี้จะมีการทำหนังสือให้ทุกหน่วยงานที่เข้าระบบไปดูข้อมูล ให้เข้ามาชี้แจงถึงสาเหตุและวัตถุประสงค์ อีกทั้งยังมีข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่บางส่วนเข้าไปที่สถาบันการเงินเพื่อขอรายการเดินบัญชี (Statement) ของบิ๊กต่อและครอบครัวด้วย
นายอัจฉริยะ มองว่าจากพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบิ๊กต่อพบว่าเกิดขึ้นในห้วงปี 2566 จนถึงปัจจุบัน และไม่เฉพาะบิ๊กต่อ แต่ยังมี รอง ผบ.ตร. อีกหลายหลายที่โดนกระทำในลักษณะดังกล่าว
ขั้นตอนการดำเนินการ คือ หน่วยงานของรัฐมักจะอ้างว่าบุคคลนั้นมีคดีเกี่ยวพันต่อเนื่องจึงต้องเข้าไปสืบค้นหาข้อมูลหรือไปขอรายการเดินบัญชีทั้ง ๆ ที่ในข้อเท็จจริงบุคคลทั้งหลายที่ถูกกล่าวหายังไม่มีใครถูกดำเนินคดีมาก่อน ซึ่งสิ่งที่ทนายตั้มเอามาเผยแพร่ต่อสาธารณะ เอกสารต่างๆ หากเป็นข้อเท็จจริง ทำไมจึงไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษอาญากับบุคคลที่มีความเชื่อมโยง เพื่อให้ได้รับการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแต่กลับนำเอามาเปิดเผยกล่าวหาพาดพิง
นายอัจฉริยะยังบอกด้วยว่า สมาชิกรายอื่นหรือครอบครัวของ ผบ.ตร.นั้น ทุกคนก็พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมให้การตรวจสอบ แต่ขอให้เป็นกระบวนการของศาลไม่ใช่นำไปพูดอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่มีหลักฐานอะไรมาชี้ชัด โดย นายศิริพงษ์ พงศ์พันธุ์สุข อดีตอัยการอาวุโส สำนักงานคดีศาลสูงสุดภาค 1 คือ ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมทนายความ โดยมีเอกสารรับรองเรียบร้อย
ทนายตั้ม โต้ อัจฉริยะ พูดเป็นหนังการ์ตูน
ภายหลังจากนายอัจฉริยะ ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อไม่นาน ทางฝั่งของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็ได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โดยระบุ “พี่อัจฉริยะพูดเหมือนหนังการ์ตูนเลยนะครับ คดีแบบนี้ ถ้าไม่เป็นข่าวดัง ตำรวจตัวเล็กตัวน้อยที่ไหนจะกล้ารับทำคดีล่ะครับ”
“บอกผมพูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีหลักฐาน ผมทนายนะครับ ไม่ใช่ทะแนะ การที่ผมออกมาเปิดโปงการทุจริตระดับชาติขนาดนี้ ถ้าไม่มีข้อมูล ใครจะกล้า พี่เองก็เปิดๆ ปิดๆ มาตลอดชีวิต น่าจะเข้าใจดี ก็น่าแปลกใจที่ประชาชนธรรมดามาออกตัวแทนตำรวจยศใหญ่ระดับนั้น เรียนตามตรง ผมไม่เคยเห็นครับ”.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อัจฉริยะ ตัวแทน บิ๊กต่อ ยื่นฟ้องทนายตั้ม หมิ่นประมาท เรียก 5 ล้านบาท
- ทนายตั้ม โพสต์รูปคู่ บิ๊กเต่า เผยมั่นใจขึ้นมาก ขอจับตาดูความตั้งใจใกล้ชิด
- สมาคมนักข่าวนักนสพ. ยื่นหนังสือสภาทนายความ สอบเพิ่มปม ทนายตั้มแฉ