รีวิว Exhuma ขุดผีมาจากหลุม แต่ปลายทางไปไกลเกินกว่าผี แบบคาดไม่ถึง
สำหรับคอหนังที่ชื่นชอบผลงานภาพยนตร์แนวลึกลับแบบผีหลอกวิญญาณหลอน Exhuma ของผู้กำกับ จางแจฮยอน เรื่องนี้อาจจะตอบโจทย์ไม่ได้เท่าที่คาดหวังกันไว้ แต่ก็สนุกมากตามสไตล์หนังปีศาจ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ, พิธีกรรมหมอผีและธรรมเนียมพื้นบ้านเกาหลี เข้ากับประวัติศาสตร์บาดแผลของประเทศเกาหลีกับญี่ปุ่น บรรยากาศของหนังเป็นโทนตึงเครียดเชิงจิตวิทยา ผสมกับความลุ้นระทึกแบบภูติปีศาจ จึงขาดความหลอนเสียวสันหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เส้นเรื่องของ ‘ขุดมันขึ้นมาจากหลุม’
เรื่องย่อของ Exhuma ว่าด้วยภารกิจสุดลึกลับและชวนขนลุกของสองคู่หุหมอผี (คิมโกอึน และ อีโดฮยอน) , ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย (ชเวมินชิก ) และ เจ้าหน้าที่ประจำห้องเก็บศพ (ยูแฮจิน) ที่ต้องร่วมมือกันหาสาเหตุของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ก่อกวนครอบครัวเศรษฐีใหญ่ของเกาหลีซึ่งย้ายไปพำนักในสหรัฐ วิธีแก้ที่พวกเขาคิดได้คือการขุดสุสานบรรพบุรุษของตระกูลขึ้นซึ่งฝังอยู่บนเขาบ้านห่างไกลของเกาหลี แล้วทำพิธีเผา ซึ่งนั่นคือจุดเรื่องต้นของความสยองที่ไม่มีใครนึกถึง
ทีมผู้เชี่ยวชาญทั้ง 4 เริ่มขุดสุสานบนภูเขาอย่างระมัดระวัง ทันทีที่ตรวจสภาพของสุสาน ซังด็อก ผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ยก็ประกาศว่าโลงศพถูกฝังอยู่ “ในจุดอัปมงคลที่สุด” อีกด้านหนึ่งก็ประกอบพิธี “บูชายัญ” เพื่อขับไล่และปลอบวิญญาณร้ายซึ่งอาจแฝงตัวอยู่ในโลง
ประธานพัค หัวหน้าครอบครัวซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้ขุดสุสานขอร้อว่าอย่าเปิดโลงศพ แต่ให้ทำการเผาทันที การกระทำเช่นนี้ถือว่าขัดต่อธรรมเนียมและกฎของการจัดการศึก อย่างไรก็ตาม การเผาศพต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่คาดคิดเนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ เมื่อโลงศพถูกเคลื่อนย้ายไปห้องเก็บศพชั่วคราว “สิ่งอันตรายบางอย่าง” ก็เล็ดลอดออกมา
ในช่วงครึ่งแรกของหนังที่มีความยาว 134 นาทีนั้น สร้างความตึงเครียดจากพลังลึกลับของผี ผสมกับความคาดหวังว่าเหตุการณ์อันเลวร้ายจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ตรึงคนดูด้วยการเล่าเรื่องลงลึกอ้างอิงขนบธรรมเนียมด้านวิญญาณของเกาหลี ขับเรื่องด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของทีมนักแสดง
นักแสดงคือของดีของเรื่อง
นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ชเวมินซิก ถ่ายทอดภาพซังด็อก ผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ยมากประสบการณ์ผู้รู้ว่ากำลังเผชิญกับอะไร แม้กระนั้น เขาก็ยังคงทำงานด้วยจรรยาบรรณแบบไม่กลัวชีวิต ส่วน คิมโกอึน ก็แปลงโฉมได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นหมอผีรุ่นเยาว์ผู้ทำพิธี “บูชายัญ” โบกสะบัดมีดคมกริบและคาบมีดไว้ในปากเพื่อขับไล่วิญญาณร้ายที่สิงอยู่ในตระกูล
ทว่าความตึงเครียดกลับคลี่คลายลงอย่างกะทันหันเมื่อพลังร้ายซึ่งเป็นแก่นของความลึกลับในภาพยนตร์เรื่องนี้เผยตัวออกมา พลิกโทนเรื่องจาก “ผี” ไปเป็น “ปีศาจ” การเดินเรื่องหลังจากนั้นเน้นการอธิบายปมและวิธีแก้ไขอย่างละเอียดเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจ ไม่เหลือพื้นที่ให้จินตนาการเลย
ใน “Exhuma” ผู้กำกับพยายามนำเสนอหนังลึกลับเหนือธรรมชาติมุมมองใหม่ โดยเพิ่มสิ่งมีชีวิตคล้ายซอมบี้ซึ่งมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ในบริบทประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ยังน่าสงสัยว่าเขาจะส่งสารนี้กลับถึงบ้านด้วยความน่าสนใจมากน้อยเพียงไร
หนังเรื่องนี้จึงค่อนข้างคาบเกี่ยวอยู่พอสมควรว่าจะถูกใจสายหนังผีสยองขวัญหรือไม่ แต่ผู้เขียนเข้าไปดูแล้ว ยอมรับว่าไม่่รู้สึกหลอนติดตัวเมื่อดูจบ แต่ก็สนุกลุ้นระทึกระหว่างรับชมไปจนถึงฉากสุดท้าย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว Immaculate บริสุทธิ์ผุดปีศาจ ท้าทายศาสนาแบบเลือดสาด
- ไฟเขียว! ร่างทรง 2 มาแน่ นาฮงจินประกาศสร้างภาคต่อในชื่อเรื่อง ‘มิ้ง-Mink’
- ใครเกิดทัน “สวยลากไส้” 17 ปี ตำนานหนังผีสวยสยอง ตอนจบช็อกหักมุม