เปิดแชทเล่าปมชีวิตในค่ายทหารเกณฑ์ จากพลทหารคมทัช พันฤทธิ์ หรือ อดีต สส.ก้าวไกล เล่าต้องตัดหญ้า กวาดบ้าน ผบ. เพื่อนสูบกัญชา นอนไม่หลับ ก่อนเครียดไม่ไหว จึงตัดสินใจจบชีวิตในค่าย ผู้คอดับสลด พร้อมคำชี้แจงจาก กองทัพบกไทย
นางสาว ธิษะณา ชุณหะวัณ สส. กทม. สังกัดพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความและภาพแชท การพูดคุยกับ พลทหารคมทัช พันฤทธิ์ ตำแหน่ง พลลูกมือ สังกัด กองร้อยบริการที่ 3 กองพันบริการ กองบริการ กรมการทหารช่าง ช่วยราชการ (พันบร.กบร.กซ. ชรก.) ปฏิบัติงานที่โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์โยธินวิทยา (ร.ร.ทบอ.โยธินวิทยา) หรือ อดีตผู้ช่วย สส.ก้าวไกลผู้เสียชีวิต ซึ่งเผยให้เห็นถึงความทุกข์ทรมาน ที่เขาเผชิญจากในค่ายทหาร ทั้งนี้อดีตผู้ช่วย สส. ระบุว่า ตนต้องทำงานหนัก ตัดหญ้า กวาดบ้านผู้บังคับบัญชา อีกทั้งยังต้องทนกับเพื่อนที่สูบกัญชาจนนอนแทบไม่ได้ เขารู้สึกเครียด กลัว และกังวลเกี่ยวกับอนาคต โดยระบุข้อความไว้ว่า
ข้อความวันที่ 19 มกราคม 2567
“ผมฝึกจบแล้วนะครับ พึ่งสวนสนามเสร็จ กองพันให้ไปทำงานเอกสารข้างบนตึก ไม่ต้องตัดหญ้าตากแดดครับ”
ข้อความวันที่ 28 มกราคม 2567
“ไม่ได้ไปแล้วครับ ผู้กองที่กองร้อยไม่ปล่อยตึวขึ้นไปบนตึก ตอนนี้น่าจะต้องตัดหญ้า กวาดบ้านผู้บังคับบัญชา พรุ่งนี้เขาจะเรียกคุยว่าใครจะไปบ้านนาย บางคนอาจจะให้จำหน่ายออก เอาเงินเดือนให้เขาแล้วกลับไปอยู่บ้าน”
“พอมาอยู่กองร่อยแล้วเครียดมากเลยพี่ ต้องนั่งระแวงว่าของจะหาย ใครจะขโมยหรือเปล่า ออกไปตัดหน้าข้างนอกที ขนไปหมดสายชาร์จ พาวเวอร์แบงก์ บัตร ดึกๆ เพื่อนก็นั่งดูดกัญชากันนอนแทบไม่ได้ อยากออกไปเรียนก็ไม่ได้เรียน ออกไปทำงานข้างนอกก็ไม่ได้”
แม้ว่าจะได้มีการแนะนำให้ อดีตผู้ช่วย สส. คนดังกล่าว จดบันทึกไว้ เพื่อระบายความเครียดที่เกิดขึ้น ทว่าความตึงเครียดก็ไม่อาจทุเลาลง ก่อนที่อดีตผู้ช่วยจะโพสต์ข้อความผ่านแชทอีกว่า “ครับพี่ ถ้าให้อยู่ต่อ ตอนนี้ผมว่าจะให้พี่สาวคุยให้ อาจจะจ่ายเงินให้เขา แล้วผมก็ออกมาเรียนมาทำงาน พอพ่อผมเสียที่บ้านไม่มีเงินเลย ถ้าทำงานข้างนอกมันยังเรียนต่อได้หรืออย่างน้อยๆ ก็ทำงานช่วยที่บ้าน”
“เห็นมีเพื่อนออกไปแล้วคนนึง พ่อมันเป็นเพื่อนกับผู้กองพอดี ถ้ามีเส้นก็ได้ไปก่อน ตอนแรกผมคิดว่าจะทนไป แต่พอขึ้นกองร้อยอยู่แทบไม่ได้ กลัวอยู่ไปแล้วตัวเองเป็นอะไรก่อน เน่าทั้งระบบ”
ข้อความวันที่ 17 มีนาคม 2567
จากนั้นอีกฝ่ายจึงได้กล่าวว่า “สู้ ๆ ครับ” และอดีต สส.ก้าวไกล ผู้เสียชีวิต จึงกล่าวตอบไปสั้น ๆ ว่า “ขอบคุณครับ จะหลุดพ้นแล้วครับ“
แม้ว่าอดีตผู้ช่วย สส. พยายามหาทางออกที่จะไม่ต้องอยู่ในค่ายทหาร ด้วยการจ่ายเงินเพื่อขอปลดประจำการ หรือขอให้พี่สาวคุยกับผู้บังคับบัญชา แต่ก็ไม่มีทางออกที่ดี กระทั่งในที่สุด อดีตผู้ช่วย สส. จึงตัดสินใจผูกคอตายในค่ายทหาร นับเหตุการณ์นี้สร้างความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว เพื่อนฝูง และประชาชนที่ติดตามข่าว
ต่อมาล่าสุด ญาติและเพื่อนของพลทหารคมทัชได้เปิดเผยข้อมูลในชั้นต้นว่า “สาเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากปัญหาส่วนตัวกับแฟน” ส่วนทางด้านของกองทัพบก ก็ได้ออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 22.41 น. ผ่านเอกสารว่า
ได้รับแจ้งกรณีทหารกองประจำการกระทำอัตวินิบาตกรรม (ผูกคอเสียชีวิต) โดยเป็นทหารในสังกัดของกองพันบริการ กองบริการ กรมการทหารช่าง ช่วยราชการ ปฏิบัติงานที่โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์โยธินวิทยา โดยหลังจากเกิดเหตุหน่วยแจ้งไปทาง สภ.เมืองราชบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชร่วมในการตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พลทหาร คมทัช พันฤทธิ์ เสียชีวิตด้วยการผูกคอตายในห้องน้ำของโรงเรียน
โดยในวันเดียวกันผู้บังคับหน่วยต้นสังกัดได้เดินทางไปพบครอบครัวเพื่อแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวและแสดงความเสียใจ ตลอดจนแจ้งสิทธิและสวัสดิการที่ผู้เสียชีวิตจะได้รับ และทางหน่วยต้นสังกัดจะช่วยดูแลอำนวยความสะดวกในด้านการจัดงานศพกับครอบครัว ทั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ประเด็นถกเถียงในสังคม
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้จุดประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับระบบการเกณฑ์ทหารในประเทศไทย หลายคนเห็นว่าระบบนี้ล้าสมัย ไม่เป็นธรรม และสร้างความทุกข์ทรมานให้กับทหารเกณฑ์หรือไม่? และควรเป็นบทเรียนที่จะนำไปสู่การพัฒนาระบบการดูแลทหารเกณฑ์ที่ดีขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตของทหารเกณฑ์นั่นเอง.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กองทัพบก แจงสาเหตุ ผู้ช่วย สส. ก้าวไกล ผูกคอตายในห้องน้ำ ทะเลาะกับแฟน
- ‘ก้าวไกล’ เปิดตัว ‘พันธุ์อาจ ชัยรัตน์’ ลงสมัครชิงเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่
- ผู้ช่วย สส.ก้าวไกล ผูกคอตายในค่ายทหาร แชตสุดท้าย ‘จะหลุดพ้นแล้ว’
