พ่อแม่โดนด้วย ข้อหา ‘ฆาตกรรมโดยไม่เจตนา’ หลังลูกชายกราดยิงเพื่อนใน รร. มิชิแกน
พ่อของมือปืนกราดยิงที่มิชิแกน ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมโดยไม่เจตนา
วันนี้ 15 มีนาคม 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า คณะลูกขุนรัฐมิชิแกนได้ตัดสินว่าพ่อของวัยรุ่นที่ยิงเพื่อนร่วมชั้นเสียชีวิต 4 คนในโรงเรียนมัธยมใกล้เมืองดีทรอยต์ เมื่อปี 2564 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา หลังอัยการโต้แย้งว่าเขาต้องรับผิดชอบเนื่องจากเขาและภรรยามอบปืนให้ลูกชายและเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนอันตราย
เจมส์ ครัมบลีย์ วัย 47 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในการพิจารณาคดี ซึ่งเกิดขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากที่ เจนนิเฟอร์ ครัมบลีย์ ภรรยาของเขา ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาเดียวกันจากเหตุการณ์กราดยิงดังกล่าว เจมส์ ครัมบลีย์ เผชิญกับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา 4 กระทง โดยแต่ละกระทงสอดคล้องกับเหยื่อแต่ละรายที่โรงเรียนมัธยมออกซ์ฟอร์ดในเหตุการณ์กราดยิงสะเทือนขวัญ
ทั้งเจมส์และเจนนิเฟอร์ ครัมบลีย์ จะถูกพิพากษาในวันที่ 9 เมษายน 2567 โดยข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนานั้นมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี
อีธาน ลูกชายของตระกูลครัมบลีย์ อายุ 15 ปีในขณะที่เกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมออกซ์ฟอร์ด ด้วยอาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ เขาให้การรับสารภาพในปี 2565 ในข้อหาฆาตกรรมระดับที่หนึ่ง 4 กระทง และข้อหาอื่นๆ ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีสิทธิ์ได้รับการอภัยโทษ
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนอย่างต่อเนื่อง ได้เผชิญกับเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่มักจะเป็นนักเรียนปัจจุบันหรืออดีตนักเรียน
คดีครัมบลีย์ถือเป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาในเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนของลูก
“ข้อเท็จจริงในคดีนี้ถือว่ารุนแรงและเกิดขึ้นได้ยากมาก” คาเรน แมคโดนัลด์ อัยการเขตโอ๊คแลนด์เคาน์ตี้ รัฐมิชิแกน กล่าวต่อคณะลูกขุนในระหว่างการแถลงปิดคดีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
แมคโดนัลด์กล่าวว่า เจมส์ ครัมบลีย์ ละเลยสัญญาณเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าลูกชายของเขามีปัญหาทางจิตอย่างรุนแรง ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือที่ลูกชายต้องการ และไม่ได้เก็บรักษาอาวุธปืนในบ้านอย่างปลอดภัย
“เขาไม่ได้ทำอะไรเลย แม้จะพบสัญญาณเตือนแล้วเตือนเล่า” แมคโดนัลด์กล่าว
ฝ่ายอัยการยังได้นำเสนอข้อความที่อีธานส่งให้เพื่อน รวมถึงบันทึกในสมุดบันทึกส่วนตัวที่เขาเขียนในช่วงหลายเดือนก่อนเกิดเหตุกราดยิง ซึ่งกล่าวถึงความต้องการความช่วยเหลือจากแพทย์และการได้ยินเสียงหลอน แต่เขากังวลว่าพ่อแม่ของเขาจะ “โมโห”
ลูกเคยขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่แล้ว ก่อนลงมือกราดยิง
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอาวุธปืนกล่าวว่าพวกเขาหวังว่าคดีตระกูลครัมบลีย์จะเป็นสัญญาณเตือนให้พ่อแม่เก็บอาวุธไว้ในบ้านให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ตามงานวิจัยของรัฐบาลพบว่าประมาณ 75% ของมือปืนกราดยิงในโรงเรียนได้รับอาวุธปืนจากบ้านของตนเอง
ฝ่ายอัยการระบุว่า เจมส์ ครัมบลีย์ ซื้อปืนพกที่ใช้ในเหตุการณ์กราดยิงเพียงสี่วันก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2021 เช้าวันเกิดเหตุ ครูได้ค้นพบภาพวาดของอีธานซึ่งมีภาพปืนพก ลูกกระสุน และร่างคนโชกเลือด พร้อมกับข้อความว่า “เลือดอยู่ทุกที่” “ชีวิตของฉันไร้ค่า” และ “ความคิดไม่หยุด – ช่วยด้วย”
อัยการกล่าวว่าครอบครัวครัมบลีย์ได้รับการเรียกตัวไปที่โรงเรียนในเช้าวันนั้น และได้รับแจ้งว่าอีธานต้องการคำปรึกษาทางจิตใจ และพ่อแม่จำเป็นต้องพาลูกชายกลับบ้าน แต่ทั้งคู่ขัดขืนและไม่ได้ตรวจค้นกระเป๋าเป้ของลูกชายหรือถามหาปืน
ทั้งเจมส์และเจนนิเฟอร์ ครัมบลีย์โต้แย้งในระหว่างการพิจารณาคดี โดยกล่าวว่าครูในการประชุมครั้งนั้นเห็นพ้องต้องกันว่าอีธานสามารถอยู่ที่โรงเรียนต่อไปได้ในวันนั้น และพวกเขาไม่คิดว่าลูกชายจะเป็นอันตรายต่อนักเรียนคนอื่นๆ
ตามคำกล่าวของอัยการ อีธานได้รับอนุญาตให้กลับเข้าชั้นเรียน ก่อนออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับปืน และเริ่มกราดยิง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พ่อถูกพิพากษามีความผิดคดีฆาตกรรมด้วย หลังลูกกราดยิงมิชิแกน 4 ศพ
- กราดยิงขบวนพาเหรดซูเปอร์โบวล์ ตาย 1 ศพ เจ็บหลายสิบ
- วัยรุ่นมะกัน 17 ปี บุกกราดยิงโรงเรียนไอโอวา เด็กดับ 1 เจ็บอีก 5 ราย