ข่าวข่าวอาชญากรรม

พยาบาลหลอกเสี่ยเต้นท์รถ สูญ 38 ล้าน รพ.แจงลาออกแล้ว ปัดให้ข้อมูลเพิ่ม

ตามต่อคดี พยาบาลหลอกเสี่ย เฮียอ้วน ถูกสาวคนสนิทหลอกกู้เงินสูญ 38 ล้าน แถมนำเอกสารประชาชนกว่า 680 รายชื่อมาแอบอ้าง โรงพยาบาลต้นสังกัดโร่แจง เคยทำงานจริงแต่ลาออกไปแล้ว

วันนี้ (15 มี.ค.67) เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ได้ลงโพสต์เคลื่อไหวเกี่ยวกับประเด็น เฮียอ้วน วาสิตย์ เสี่ยเงินกู้เจ้าของเต้นท์รถยนต์มือสอง ถูก นางธีรนันท์ พยาบาลสาวคนสนิท อายุ 39 ปี นำสำเนาบัตรประชาชนของคนอื่น จำนวน 680 รายชื่อ ทยอยมาขอกู้เงินตั้งแต่ปี 63 จนสุดท้ายต้องสูญเงินรวมกว่า 38 ล้านบาท

Advertisements

“เสี่ยเงินกู้ถูกหลอกกู้เงินไป38ล้าน โดยผู้กู้เป็นอดีตพยาบาลเอาเอกสารปชช. กว่า 680 คนมากู้ สงสัยเป็นเอกสารของคนไข้ที่หลุดจาก รพ.” ข้อความจากเพจดราม่า ระบุ.

ต่อมาอ้างอิงข้อมูลจาก อมรินทร์ทีวี ด้านโรงพยาบาลต้นสังกัดของพยาบาลสาว ย่านพัฒนาการ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ทาง รพ. รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยบอร์ดบริหารกำลังพูดคุยและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอยู่

เบื้องต้น โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ เปิดเผยว่า พยาบาลสาวเคยทำงานที่โรงพยาบาลจริง แต่ลาออกไปแล้วส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ขอยังไม่ให้ข้อมูลตอนนี้.

พยาบาลหลอกเสี่ย
ภาพ @โหนกระแส

ทัังนี้ ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความที่ดูแลคดีให้ เฮียอ้วน กล่าวว่า เรื่องของฉ้อโกงต้องดูเป็นเคสเลยการกู้ยืมเงินทั้ง 600 กว่าครั้งต้องดูเป็นครั้งไป ถ้ามีการกู้ยืมเงินกันจริงไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง เพราะไม่ได้มีการหลอกลวง แต่ถ้าเอาบัตรประชาชนมาแล้วบอกว่าคนนี้จะกู้ยืมเงิน แต่ไม่ได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง ๆ แล้วหลอกเอาเงินไป แบบนี้ชัดเจนว่าเป็นข้อหาฉ้อโกง ก็ต้องแจ้งความภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำความผิด ไม่งั้นจะขาดอายุความ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ขาดอายุความ

ส่วนเรื่องเอกสารอาจจะต้องไปสอบทางโรงพยาบาล ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล เพราะกฎหมายออกมาใหม่ระบุว่า คนที่ทำเกี่ยวกับเวชระเบียนต้องเก็บข้อมูลให้ดี หากเกิดรั่วไหลไปก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล

Advertisements

ส่วนคนที่ถูกเอาบัตรประชาชนไปใช้ก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน เพราะถูกแอบอ้างก็ขอให้มายืนยันตัวตนว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะไม่งั้นอาจจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยก็ได้ ก็อยากให้เข้ามาคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางเฮียอ้วนเองก็ฝากบอกคู่กรณีว่าให้เข้ามาเจรจา เรื่องที่กลัวทำร้ายร่างกาย ขอยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกายอย่างเด็ดขาด

อีกฝ่ายรู้จักตนดีพูดคำไหนแล้วคำนั้น ให้เข้ามาเจรจาว่าเงินที่เอาไปนั้นไปอยู่ตรงไหน ซึ่งเป็นเงินมากพอสมควรที่เก็บไว้ใช้ตอนสูงอายุ.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button