เฮียอ้วนกลายเป็นฮีโร่ หลังออกมาแฉ นางพยาบาล โรงพยาบาลแถวพัฒนาการ นำข้อมูลบัตรประชาชนของคนไข้กว่า 680 คนมาหลอกกู้เงิน รวมเกือบ 40 ล้านบาท
วันนี้ 15 มีนาคม 2567 รายงานกรณีฉาว เมื่อเฮียอ้วน เจ้าของเต็นท์รถมือสอง วัย 63 ปี ถูกพยาบาลสาวคนสนิท นางสาวธีรนันท์ อายุ 39 ปี ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวพัฒนาการ หลอกลวงนำสำเนาบัตรประชาชนของคนไข้ 680 คน ไปกู้เงินกับเฮียอ้วน นานกว่า 4 ปี สูญเงินต้นกว่า 10 ล้านบาท และรวมผลประโยชน์แล้ว สูงถึง 38 ล้านบาท
เฮียอ้วนซึ่งมีภรรยาอยู่แล้วเล่าว่ามีความสัมพันธ์กับพยาบาลคนดังกล่าว แต่ไม่ได้อยู่กินกันประจำ เธอจะแวะเวียนมาหาอาทิตย์ครั้ง โดยคบหากันตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มปล่อยเงินกู้โดยพยาบาลคนดังกล่าวเอาบัตรประชาชนมาให้ เฮียอ้วน ทำเรื่องให้กู้เงิน แต่ด้วยความไว้ใจ จึงไม่ได้ตรวจสอบว่าลายเซ็นต์ที่อยู่บนสำเนาบัตรประชาชนนั้นเป็นของปลอมหรือไม่ โดยให้กู้ไปดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราที่นางพยาบาลเสนอเอง
กระทั่งปี 2567 ตนรู้สึกว่าเงินที่ปล่อยกู้ไปเป็นจำนวนเยอะและคนกู้เยอะ กลัวว่าจะดูแลไม่ทั่วถึงจึงให้หยุดไปก่อน แล้วเก็บเงินต้นกับดอกที่ปล่อยกู้ไปแล้ว นั่นจึงทำให้เรื่องแดงขึ้น เพราะเมื่อตนโทรไปหาลูกหนี้จึงทราบว่า ลูกหนี้หลายสิบคนถถูกนำบัตรประชาชนมาแอบอ้าง ไม่ได้รู้จักกับนางพยาบาลคนดังกล่าว ซึ่งเฮียอ้วนคิดไม่ถึงว่าจะทำเช่นนี้ได้ เพราะตอนอยู่ด้วยกันมา เขาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย
“ทุกรายเขาจะใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชนและสัญญาเงินกู้ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง มาส่งมอบให้กับตน ยอมรับว่าด้วยความไว้ใจ ก็เลยไม่เคยตรวจสอบเลย เขาอ้างว่าเป็นของพนักงานของทางโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ มาขอกู้เงิน ปล่อยเรื่อยมา มีการตัดยอดดอกเบี้ยมาส่ง แล้วก็เบิกก้อนใหม่ไปปล่อยอีก มีเงินเข้าๆ ออกๆ แบบนี้ ตลอดจนถึงต้นปี 67 ยอดรวมทั้งต้นทั้งดอกอยู่ที่ประมาณ 38 ล้านบาท” เฮียอ้วน กล่าวผ่านรายการโหนกระแส
ด้าน ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมเฮียอ้วนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ให้ประชาชนทราบ เพราะเป็นเรื่องของความเดือดร้อนประชาชน ไม่ใช่เรื่องของคนสองคน ส่วนข้อมูลบัตรประชาชนคนไข้ เท่าที่ทราบเบื้องต้น เหมือนมาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แหล่งเดีวกันกับที่พยาบาลสาวทำงาน
เบื้องต้นทางหน่วยงานงานให้เฮียอ้วน รวบรวมเอกสารส่งมาทางศูนย์รับร้องเรียนก่อน และจะได้ส่งไปให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และตอนนี้แจ้งไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว หากมีการหลุดออกมาจากโรงพยาบาลดังกล่าวแล้วต้องมีการพิจารณาลงโทษและตรวจสอบตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีข้อมูลจากผู้สื่อข่าวออกมาว่า นางสาวธีรนันท์ ทำงานอยู่โรงพยาบาลย่านพัฒนาการจริง ประจำอยู่แผนกฉุกเฉิน เพิ่งลาออกไปเมื่อต้นเดือนมีนาคม หลังทำงานมา 6 ปี ตอนนี้ผู้บริหารรู้เรื่องแล้ว กำลังสืบหารายละเอียดว่าสำเนาบัตรประชาชนไปอยู่ในมือพยาบาลสาวได้อย่างไร
