ชุดปราบยาเสพติด ตชด.425 รวบสาวภูเก็ต พร้อมยาบ้า 20,772 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 73.43 กรัม ในพื้นที่ต.ฉลอง โดยรับค่าจ้างส่งครั้งละ 500 บาท และได้เงินเดือนเดือนละ 12,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 425 ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.ต.ก้องภพ โพธิ์แสน ผบ.ร้อย (สบ2)กก.ตชด.42 (ร้อย ตชด.425) เจ้าพนักงาน ปปส. 500855 นำโดย ร.ต.อ.อำพล สมอไทย หน.ชปข.ร้อยตชด.425 เจ้าพนักงาน ปปส. หมายเลข 584070 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตชด.425 ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.จิราภรณ์ ช่วยเกิด (สาว) อายุ 39 ปี ที่อยู่ 172/37 ม.4 ถ.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 20,772 เม็ด และ ยาไอซ์ น้ำหนัก 73.43 กรัม(พบซุกซ่อนอยู่ในกล่องทรงกลมสีดำวางอยู่ใต้โต๊ะภายในห้องนอนของบ้านพัก น.ส.จิราภรณ์ฯ ที่พักอาศัยอยู่ขณะถูกจับกุม) เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA PCX 150 สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขพษ ภูเก็ต 44 จำนวน 1 คัน
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 11/36 ถ.หลวงพ่อช่วง ม.4 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 69/211 ซ.6 หมู่บ้าน เจ้าฟ้าการ์เด้นท์ โฮม ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 ก.ย.61 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตชด.425 จะทำการขยายผลแต่ไม่สามารถขยายผลได้จึงได้ทำบันทึกกันจับกุม เมื่อวันที่ 20 ก.ย.61 ที่ผ่านมา
ร.ต.อ.อำพล สมอไทย หน.ชปข.ร้อย ตชด.425 กล่าวถึงการจับกุมดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 เวลาประมาณ 01.00 น ทางชุดจับกุมได้จับกุม น.ส.มานิตา หรือจ้ำ ฉั่วสกุล ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่งดำเนินคดีที่ สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต หลังจากนั้น บิดาของ น.ส.มานิตาฯได้ไปเยี่ยม น.ส.มานิตาฯ ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต น.ส.มานิตาฯ ก็ได้แจ้งเบาะแสเครือข่ายการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดแก่บิดา ต่อมาบิดาน.ส.มานิตาฯ
จึงได้เข้าพบตนเองเพื่อแจ้งเบาะแสดังกล่าว ตามที่ น.ส.มานิตาฯ ได้แจ้งผ่านตนเองมาว่า มี น.ส.สาว (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) พักอยู่บ้านหลังหนึ่งภายใน ซ.6 หมู่บ้านเจ้าฟ้า การ์เด้นท์ โฮม ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีพฤติกรรมในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้าและยาไอซ์) ในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและซุ้มสังเกตพฤติกรรม จนเป็นที่แน่ใจว่า น.ส.สาว มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดตามที่บิดาน.ส.มานิตาฯ ได้แจ้งแบาะแสไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจริง จากนั้นเมื่อวันที่ 18 กันยาน 2561 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่ยังบ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง
จนกระทั้งเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 18 กันยายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งตำนิรูปพรรณสัณฐานกำลังขับขี่จักรยานยนต์ ออกจากบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามผู้หญิงคนดังกล่าวไปห่างๆ แต่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยผู้หญิงคนดังกล่าวได้ขับรถไปทาง ถ.ป่าหลาย ผ่านแยกไฟแดงตรงไปทาง ถ.หลวงพ่อช่วง จากนั้นไปจอดรถหน้าบ้านเลขที่ 11/36 ถ.หลวงช่วง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยผู้หญิงคนดังกล่าวแสดงท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบผู้หญิงคนดังกล่าวทราบชื่อ น.ส.สาว หรือ น.ส.จิราภรณ์ ช่วยเกิด
โดยเจ้าหน้าที่ฯได้ให้ น.ส.จิราภรณ์ฯ ล้วงควักสิ่งของออกมาด้วยตนเอง ผลการตรวจสอบปรากฏว่า พบยาบ้า จำนวน 2 ถุง ถุงละ 200 เม็ด พบซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมแขนยาวสีดำข้างซ้ายตัวที่น.ส.จิราภรณ์สวมใส่ขณะถูกจับกุมอยู่ จึงได้ควบคุมตัวมาสอบที่ทำการ ชปข.ร้อย ตชด.425 เลขที่ 26/226 ถ.ศักดิเดช ม.9 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
จากการสอบถาม น.ส.จิราภรณ์ฯ ยอมรับว่า ยาดังกล่าวเป็นของตนเองจริง และยังยอมรับว่า ตนเองได้ซุกซ่อนยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่งไว้ที่บ้านเลขที่ 69/221 ซ.6 หมู่บ้าน เจ้าฟ้าการ์เด้นท์โฮม ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ให้น.ส.จิราภรณ์ฯ นำไปที่บ้านหลังดังกล่าว โดยให้ชี้จุดที่ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ ปรากฏว่า พบยาบ้าและ ยาไอซ์ อีกจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวมาขยายผลต่อแต่ไม่สามารถขยายผลการจับกุมได้เนื่องจากเจ้าของยาบ้าและยาไอซ์ตัวจริงรู้ตัวเสียก่อน
โดย น.ส.จิราภรณ์ฯ ยอมรับอีกว่ายาบ้าและยาไอซ์ดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยมีนายบัง (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เป็นคนนำมาให้ตนเองเก็บไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้น นายบัง จะเป็นคนสั่งให้ตนเองนำยาบ้าและยาไอซ์ไปส่งให้กับลูกค้า ในแต่ละครั้งตนเองจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 500 บาท และนายบังให้เป็นเงินเดือน เดือนละ 12,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวผู้ต้องหากับของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
