เคล็ดลับ ชาร์จมือถือ ให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น ป้องกันแบตเสื่อม
ชาร์จมือถือยังไงไม่ให้แบตเสื่อม? เป็นคำถามที่ทำเอาหลายคนปวดหัว รวมเทคนิคการดูแลแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น อ่านพร้อมกันได้ที่นี่
สมาร์ทโฟนที่เราใช้กันทุกวันนี้ ล้วนใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม (Lithium) ซึ่งต่างจากแบตเตอรี่แบบนิคเกิล (Nickel) ที่เคยใช้ในมือถือรุ่นเก่า ดังนั้น วิธีการชาร์จแบบเดิมที่ต้องรอแบตหมดแล้วค่อยชาร์จใหม่ จะใช้ไม่ได้ผลกับสมาร์ทโฟนปัจจุบัน เพราะมันอาจยิ่งทำให้แบตเสื่อมคุณภาพลงได้ โดยวิธีที่ดีที่สุด ในการชาร์จโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ควรปฏิบัติดังนี้
1. ชาร์จก่อนแบตหมด : ไม่ควรรอให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงหรือปล่อยให้เครื่องดับไปก่อนแล้วค่อยชาร์จ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม ซึ่งเวลาที่ควรชาร์จคือขณะที่แบตเตอรี่เหลืออยู่ประมาณ 20%
2. ไม่ต้องรอแบตเต็ม 100% : การชาร์จแบตเตอรี่นานเกินไป หรือปล่อยให้แบตอยู่ที่ 100% เป็นเวลานาน ก็ส่งผลเสียได้เช่นกัน โดยวิธีที่ดีที่สุดคือการหยุดชาร์จที่ 80% ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
3. เลี่ยงความร้อน : ขณะชาร์จโทรศัพท์มือถือ ห้าม วางมือถือไว้กลางแดด หรือใกล้หน้าต่าง เพราะจะทำให้เครื่องร้อนเกินไป และควรถอดเคสโทรศัพท์ออกขณะชาร์จ เพื่อระบายความร้อนด้วย
4. ใช้ที่ชาร์จดั้งเดิม : ควรใช้แท่นชาร์จและสายชาร์จที่มากับเครื่อง ในการชาร์จแบตเตอรี่เท่านั้น เพราะกระแสไฟ และแรงดันไฟ จะพอดีกับแบตเตอรี่ และที่สำคัญไม่ควรใช้ของปลอม เพราะอาจทำให้แบตบวมหรือเสื่อมได้ง่าย
5. ห้ามชาร์จทิ้งข้ามคืน : การชาร์จโทรศัพท์ทั้งคืนเป็นประจำ จะทำให้แบตเตอรี่อยู่ในสถานะชาร์จ และคายประจุตลอดเวลา ส่งผลให้แบตเสื่อมเร็ว แนะนำให้ชาร์จเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
6. เสียบปลั๊กก่อนต่อกับมือถือ : ควรเสียบปลั๊กของแท่นชาร์จให้ไฟเดินก่อน แล้วค่อยนำไปเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เพื่อป้องกันกระแสไฟเกิน ที่อาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ภายในเครื่องได้
ส่วนความเชื่อที่ว่า ให้ชาร์จมือถือตอนที่แบตเตอรี่เหลือไม่ต่ำกว่า 50% และไม่ควรชาร์จเกิน 80% ช่วยแบตไม่ให้แบตเสื่อมไวนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะถ้าเราปล่อยให้แบตเกลี้ยง มันจะเข้าสู่สถานะคลายประจุจนหมด อนาคตไม่สามารถเก็บประจุได้อีก
เช่นเดียวกัน การชาร์จแบตเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์จะทำให้ แบตเตอรี่ “Overcharge” สะสมความร้อนและคายประจุไฟฟ้าออกมา ซึ่งทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้เร็วมากขึ้น
ทั้งหมดนี้คือข้อควรระวัง และแนวทางการปฏิบัติเพื่อถนอมแบตเตอรี่โทรศัพท์ของตัวเอง ดังนั้นหากท่านอยากให้แบตเตอรี่อยู่ได้นาน และเลี่ยงแบตเสื่อมเร็วเกินเหตุ อย่าลืมนำคำแนะนำ 6 ข้อข้างต้น ไปลองใช้กันดูนะ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม