วันที่ 10 มีนาคม 2567 คืบหน้ากรณีคลิปฉาวโฉ่ โรงเรียนในจังหวัดนครศรีธรรมาช นักเรียนหญิงชั้น ป.6 ถูกรุ่นพี่ 4 คน รุมทำร้ายในห้องเรียน เพราะปกป้องตัวเอง ไม่ยอมให้แอบถ่ายในห้องน้ำโรงเรียน จนแฮชแท็ก #พธเท่กี่โมง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่อง เห็นลูกตัวเองถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมผ่านเพจ เป็นหนึ่ง รายละเอียดว่า
“เหตุเกิดวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ช่วงพักกลางวันและเป็นวันปัจฉิม นักเรียนหญิง 3-4 คน ที่เข้ามารุมทำร้ายถึงในห้องเรียนของหลานสาว ไม่พอใจหลานสาว เพียงเพราะว่า 3 คนที่รุมตบน้องจะเอาโทรศัพท์ไปแอบถ่ายในห้องน้ำแล้วน้องเลยเอาเท้าปัดโทรศัพท์ไว้
เค้าโกรธเลยตามมาหาเรื่องน้องในห้องเรียนของน้อง ก่อนหน้านี้เด็กกลุ่มนี้พยายามจะทำร้ายหลานสาวตลอด แต่ไม่มีจังหวะ จนวันเกิดเหตุ ก็มารุมตามคลิปเลยค่ะ
เรื่องนี้ทางผู้ปกครองแจ้งความไว้แล้ว แต่ทางโรงเรียนกลัวเสียชื่อเสียงเลยให้ปิดเรื่องนี้ ทางเป็นหนึ่งจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือเด็กหญิงที่ถูกทำร้ายในวันพรุ่งนี้
การทำร้ายกันไม่ใช่ทางออกของปัญหา อนาคตพวกหนูยังอีกไกล อย่าใช้นิสัยเป็นนักเลงในโรงเรียน เพราะเวลาโดนคดีมันไม่เท่หรอกนะหนูๆ”
ต่อมา ทางเพจ เป็นหนึ่ง อัปเดตความคืบหน้าว่า ได้ประสานหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ พมจ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือนักเรียนเหยื่อ ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายเข้าพบในช่วงเช้าของวันนี้เพื่อพูดคุยหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางครอบครัวของน้อง ป.6 ยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและไม่ยอมความใดๆ เพราะน้องคือผู้ถูกกระทำ จะโกรธเคืองกันด้วยเรื่องอะไรก็ไม่ควรที่จะใช้กำลังรุมทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ และหากโรงเรียนไม่มีมาตรการบทลงโทษที่รุนแรงกับเด็กที่กระทำผิดก็อาจจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีและเด็กคนอื่นก็สามารถกระทำได้โดยที่ไม่เกรงกลัวว่าจะมีบทลงโทษใดๆ
อาการบาดเจ็บตอนนี้ น้องมีอาการปวดศีรษะและบวมช้ำตามใบหน้า ตอนนี้น้องได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วและกลับมาพักฟื้นที่บ้านสภาพจิตใจของน้องแย่มาก และในวันเดียวกันทางผู้อำนวยการโรงเรียนและเลขาฯ ของผู้ว่าราชการจังหวัดจะลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมน้องผู้เสียหาย
เป็นหนึ่ง อยากฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนในวัยนี้เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและอบรมสั่งสอนให้เขาประพฤติตนเป็นเด็กดีไม่ใช่ทำตัวเป็นอันธพาลนักเลง ตั้งเป็นแก๊งไม่พอใจก็รุมทำร้ายคนอื่น ถ้าวันนึงเด็กกลุ่มนี้ไปเจอเด็กที่เค้าไม่ยอมขึ้นมาและโกรธแค้นจนถึงขั้นใช้อาวุธทำร้ายร่างกายกัน อย่าให้มีวันนั้นเลยค่ะมันจะเรียกร้องเอาอะไรกลับคืนมาไม่ได้เลย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเพจเฟซบุ๊ก ขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ถึงคดีนี้เช่นเดียวกันว่ารับทราบเรื่องแล้ว
“จากกรณีคลิปเหตุจากทำร้ายร่างกายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อคืนผมได้ประสานท่านศึกษาธิการจังหวัดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน และให้รีบดูแลน้องเยาวชนตามอำนาจหน้าที่แล้วครับ โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ จึงขอความร่วมมือทุกท่านที่มีการแชร์ปกปิดใบหน้าของน้องเพื่อรักษาสิทธิของน้องด้วยครับ”
ด้านตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ชี้แจงข่าวประชาสัมพันธ์ถึงคดีนี้ว่า จากกรณี ปรากฏภาพคลิปข่าว ตามสื่อโซเซียล นักเรียน ป.6 ถูกเพื่อนทำร้ายในชั้นเรียน ทาง สภ.เมือง นครศรีธรรมราชขอชี้แจงรายละเอียด ให้ทราบ ดังนี้
ภายไต้การอำนวยการของ พล.ต.ค.สมชาย ชื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ศ.อ.สุทัศน์ สงสยม รองแบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช/โฆบท ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ศ.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผถก.สภ.เมือง นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ศ.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ศ.ท.วรเศรษฐ์ ศรีไหม่ รอง ผกค. สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จริงในคลิป
ปรากฏว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 07.30 โดยเด็กหญิงเอ (นามสมมติ ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายธีรยุทธฯ ไปเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ชั้น ป.6 ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช)
ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. ขณะที่เด็กหญิงเอ (นามสมมติ ) อยู่ที่ห้อง ป.6(ห้องเรียนของตนเอง) ได้มี 1.ด.ญ.ปี ( นามสมมติ ) 2 ต.ญ.ชี ( นามสมมติ) และ 3. ด.ญ.ศี (นามสมมติ) เข้ามาใน ห้องเรียน ป.6 แล้วร่วมกับทำร้ายร่างกาย เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) โดยการกระชากที่ศีรษะ ตบ ศีรษะ และจับศีรษะโขกที่โต๊ะในห้องเรียน
ในตอนเย็น เด็กหญิงเอ ( นามสมมติ) เดินทางกลับบ้าน และบอกป้าของตนเองให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น บอกว่าตนเอง ปวตศีรษะ เนื่องจากเพื่อนทำร้าย จึงพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และเล่าเรื่อง ดังกล่าวให้นายธีรยุทธฯ ( บิดา) ทราบเรื่อง
จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมาในวันนี้ เวลา 09.30 น. ได้มีการนัดเจรจาระหว่าง ผู้ปกครองนักเรียน นักเรียนที่ก่อเหตุ ผู้เสียหาย ครู เขตการศึกษา สารวัตรนักเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่ดำรวจ ร่วมสังเกตการณ์ และดูแลรักษาความปลอดภัย
เบื้องต้นการเจรจาหา ข้อสรุปไม่ได้ นักสังคมสงเคราะห์จึงได้นัดเจรจากับทุกฝ่าย ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาข้อสรุปต่อไป ทาง สภ. เมืองนครศรีธรรมราช จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชุดสืบสวน ร่วมสังเกตการณ์ และดูแลรักษาความปลอดภัยในการเจรจาทุกครั้ง
