โหนกระแส ถามตำรวจรู้ไหม สุขุมวิท11 ชอบปาดหน้าเค้ก เหลือ 1,500 จนเป็นปัญหา
โหนกระแส ตามต่อคดีกะเทยไทย ปะทะ กะเทยฟิลิปปินส์ ถามตำรวจรู้หรือไม่ ซอย สุขุมวิท 11 ชอบปาดหน้าเค้ก คนไทยเรียกค่าบริการ 3000 ปินส์ปาดหน้าเหลือ 1500
รายการโหนกระแสวันนี้ (6 มี.ค.67) หนุ่ม กรรชัย ตามต่อคดีกะเทยรวมตัวนับพันวิวาทคู่กรณีกะเทยฟิลิปปินส์ ประเทศเพื่อนบ้าน โดยล่าสุดรายการได้เชิญ แม่เมย์ กะเทยต้นเรื่องที่โดนรุมตั้งแต่ 2-20 ก่อนถูกอัดคลิปเย้ย เธอเล่าเหตุการณ์เขม่นกันเหมือนกับที่ ไวน์ เพื่อนกะเทยที่โดนรุมด้วยกัน เปิดเผยไว้เมื่อวานนี้ในรายการ
โดย เมย์ ระบุ ตอนที่มีเรื่องกัน กะเทยฟิลิปปินส์ที่ใส่เกาะอกสีดำคนเดียวกับที่ถกกระโปรงเปิดกีกี้ เป็นคนกระโดดเข้าใส่เธอก่อนเลยเป็นคนแรก แถมตอนที่มีเรื่องวิวาทก็เป็นฝ่ายที่ถอยตลอด พยายามสวนไปแต่ก็ไม่โดนอีกฝ่าย และถูกหยุมศีรษะกับพื้นลากไปตรงขอบทางก่อนได้ น้องดาว กลุ่มกะเทยไทยพวกเดียวกันเข้ามาช่วย สภาพหลังมีเรื่อง มีศีรษะโน และไปโรงพยาบาลมาแล้ว
จากนั้น กรรชัย สรุปถึงการดำเนินคดีเอาผิดคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ ตร. จับกุมตัวคู่กรณีชาวฟิลลิปปินส์มาทั้งหมด 4 คน เป็นผู้ต้องหา 2 ราย และผู้เสียหายอีก 2 คน ซึ่งมีคดีกับ แชมป์ หนุ่มไทยกล้ามโต ที่เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มกะเทยไทย จนถูกตำรวจควบคุมตัว ไป สน. ซึ่ง แชมป์ โดนข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย แต่คดีนี้ คูารณีพร้อมไกล่เกลี่ย โดยฝ่ายฟิลิปปินส์มีการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ยังไม่ระเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
ส่วนคดีกะเทยไทย 2 คน ถูก กะเทยฟิลิปปินส์ รุมกว่า 20 คนตามที่กล่าวอ้าง ตอนนี้ทราบตัวคู่กรณีแล้ว 3 ราย เพราะผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันได้แล้ว ที่เหลืออยู่ในขั้นตอนติดตามตัวมาดำเนินการ
กรรชัย เปิดปมเขม่น กะเทยไทย -ฟิลิปปินส์ ส่วนหนึ่งปมชอบปาดหน้าเค้ก
ช่วงหนึ่งในรายการ มีการเปิดข้อมูล ผู้ให้สัมภาษณ์ปมบาดหมางก่อนนำมาสู่เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งบริเวณซอยสุขุมวิท11 ส่วนหนึ่งมาจากการที่ชอบปาดหน้าเค้ก ตัดราคาในการขายบบริการละแวกดังกล่าว ที่แต่ละฝ่ายแบ่งโซนกันทำมาหากิน
กะเทยไทย ที่มาร่วมรายการยืนกรานไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นค้าบริการดังกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของตัวเงินของการขายบริการ ในรายการของกรรชัย เผยว่า คนไทยเรียกค่าบริการ 3,000 ส่วนกะเทยฟิลิปปินส์ จะปาดหน้าเหลือ 1,500 บาท
ด้าน “วุ้นเส้น” กะเทยไทยเจ้าของท่าส่งซิกที่เป็นไวรัล กล่าวว่า ส่วนใหญ่ ถนนสุขุมวิทจะมีคนหลากหลายเชื้อชาติ ที่มายืนแถวถนนเส้นข้าง ๆ ซึ่งก็อยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ช่วยลงพื้นที่ไปดู ไปตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีกะเทยไทย VS กะเทยฟิลิปปินส์ สรุปถึงตอนนี้ เฉพาะในส่วนของที่ก่อเหตุวิวาทกันนั้น ต้องรอติดตามตัวและสืบทราบตัวผู้ก่อเหตุให้แน่ชัดอีกครั้งว่ามีใครอีกบ้าง ส่วนจะไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ ในรายการฝั่งกะเทยไทยก็ยืนยันว่า พร้อมจะไกล่เกลี่ย หากตำรวจสามารถติดตามตัวคู่กรณีชาวฟิลิปปินส์มาได้ครบทั้งหมด
ทนายไพศาล เรื่องฤทธิ์ กล่าวเสริม “คดีของแชมป์” หากไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ โทษสูงสุด คือ จำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท ส่วนคดีกะเทยไทยต้องรอติดตามตัวผู้ต้องหาให้ครบ จากนั้นจะดำเนินการขั้นตอนไกล่เกลี่ยหรือยังไงก็ว่ากันไป
เพราะตอนนี้ ผู้ต้องหามีแค่ 3 คน มันเป็นไปไม่ได้ที่คนไทย 6 คน จะถูกคู่กรณี แค่ 3 ราย มารุมทำร้าย ตำรวจต้องไปเช็กด้วยว่า กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ ที่อ้างว่าใช้ “วีซ่านักท่องเที่ยว” 30 วันนี้ มาเที่ยวอย่างไร ยังไงบ้าง หรือเที่ยวเฉพาะที่สุขุมวิท 11 ที่เดียว ต้องรวมบรวมข้อมูลให้ครบเพื่อเอาผิดในทางคดีที่เกิด และสังคมกำลังจับตาการทำงาน.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง