ข่าว

กะเทยไทย เล่าไทม์ไลน์ 20 รุม 6 หยุมหัวกันฉ่ำ ก่อนนัดรวมตัวหน้าสุขุมวิท 11

โหนกระแส กะเทยไทย วันนี้ เล่าปมปะทะเดือด กะเทย ฟิลิปปินส์ 20 รุม 6 เหตุการณ์วันนั้นจบลงตรงไหน ก่อนวิ่งเข้าโรงแรม พร้อมฟังเพื่อนพี่กะเทยเล่า พลังโซเชียลรวมตัวหน้าซอยสุขุมวิท11 ได้ยังไง

วันที่ 5 มีนาคม 2567 รายการโหนกระแส ตีแผ่ประเด็นเดือด “กะเทยไทย” เปิดหน้าแลก “กะเทยฟิลิปปินส์” เล่าปมบาดหมางหลังเหตุ 20 รุม 2 โดยเริ่มมา ไวน์ กะเทยต้นเรื่อง ซึ่งเป็น 1 ใน 2 กะเทยไทยที่ถูกรุมกว่า 20 คน เล่าว่า ตนกับ ไหม เพื่อนอีกคน ไปร้านทำเล็บแห่งหนึ่งแล้วเจอกับกลุ่มสาวประเภทสองที่เป็นชาวฟิลิปปินส์ แล้วเกิดมีเรื่องกัน

กลุ่มของกะเทยฟิลิปปินส์ มีการพูดจาชวนหาเรื่อง ถามมองหน้าทำไมจะตบกันไหม จนต้องพากันไปเคลียร์ที่โรงพัก แยกย้ายโดยไม่ได้มีการแจ้งความเอาเรื่องใด ๆ กันในตอนแรก แต่ต่อมา หลังจากที่ตนชวนไหมไปทานข้าวหลังจบจากที่โรงพัก ปรากฏกลุ่มของกะเทยฟิลิปปินส์ นับกว่า 10 คน มาหาเรื่องกะเทยไทย 2 คนต่อ

ทำให้ฝ่ายคนไทยโทรไปขอความช่วยเหลือกับ อัง เพื่อนของไวน์ พอมาถึงไปเจอกลุ่มคู่กรณี มีการถามใครเป็นใคร รวมถึงใครที่เป็นคนด่า ซึ่งแขกรับเชิญเผยว่า พอกล่าวถามไปไม่นานอีกฝ่ายก็กระโจนเข้าใส่เลย ชุลมุนมาก มีหยุมศีรษะ มีทุบ โดยไวน์ยังเปิดภาพรอยฟกช้ำที่ช้ำหนักตรงเบ้าตาโชว์กลางรายการด้วย ยอมรับคู่กรณีตัวใหญ่มาก เหมือนนักมวย

โหนกระแส 2 กะเทยไทยต้นเรื่อง
ภาพ @honekrasaeofficial

นอกจากนี้ ปุ้ย หญิงสาวฝั่งกะเทยไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้ข้อมูลเงินของเธอเองที่หายไปตอนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาท 2,000 บาท จากที่มีติดกระเป๋าอยู่ 1 หมื่นบาท เชื่อว่าคู่กรณีเป็นคนเอาไป โดยต่อมาได้ไปแจ้งความคดีลักทรัพย์ไว้ แต่ต่อมาเรื่องดันไม่จบเมื่ออีกฝ่ายมีการเอาคลิปเหตุการณ์รุมตบไปเผยแพร่ในโซเชียลตามเพจของฟิลิปปินส์ จนเรื่องมาถึงหูกะเทยไทยที่ทราบข่าวจากการที่พี่ ๆ น้อง ๆ กลุ่ม LGBT พี่กลุ่มแฟนนางงาม แชร์กันต่อเรื่อย ๆ แล้วมาเห็นเข้าในที่สุด

ปุ้ยหญิงสาว กลุ่เพื่อนกะเทย
ภาพ @รายการโหนกระแส
โหนกระแสวันนี้ กะเทยไทย
ภาพ @honekrasaeofficial

ชา เพื่อนไวน์ เล่าเรื่องที่เกิดพลังโซเชียล เหล่ากะเทยไทยนัดรวมตัวที่สุขุมวิท11 เริ่มจากพวกเธอและเพื่อน ๆ ที่ทำงานในย่านสุขุมวิท11 มาเห็นคลิปก็เกิดการไม่พอใจมาก พอทราบว่าคู่กรณีพักอยู่ที่ไหนจึงออกกันมาเลย ตั้งแต่ 6 โมงเย็น ไปยืนอยู่หน้าซอย 11 เพื่อรอคู่กรณีจะมาตอนไหน จน 2 ทุ่มก็เป็นภาพที่คนมารวมตัวกันจำนวนมาก มีการโพสต์สีแดงขอให้กะเทยไทยไปช่วยดูซอย 11 พวกพี่ ๆ กะเทยก็แชร์กัน

ตอนที่คู่กรณีกลับมาถึงที่พัก ชา ยังบอกด้วยว่า หลังไปดักรอก็เจอกลุ่มของคู่กรณี 1 คน แต่อีกฝ่ายพอเห็นพวกเธอก็เดินหนีหายไปทันที

ภาพ @honekrasaeofficial

เปิดไทม์ไลน์ตบสนั่น วันกะเทยผ่านศึก 2024

ช่วงระยะเวลาเกิดเหตุ กะเทยไทย VS กะเทฟิลิปปินส์ วันที่ 4 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา ตี 5 ไปจนถึง 3 ทุ่มของวันเดียวกัน

  • 05.00 น. กะเทยไทย 5-6 คน ถูกฝั่งฟิลิปปินส์ชี้หน้าด่า ถ.สุขุมวิท พาพวกยั่วยุ รุมตบชิงเงิน
  • 14.53 น. กะเทยฟิลิปปินส์โพสต์คลิปเย้ยในโซเชียล
  • 21.00 น. ฝั่งไทยนับร้อยรวมตัวที่โรงแรม ซอยสุขุมวิท 11

ไทม์ไลน์ กะเทยไทยฟิลิปปินส์

วินาทีตะลุมบอน เดือด ! หลังกลุ่มเพื่อนกะเทยไทย แห่รวมตัวกว่า 2000 คน

เหตุการณ์หลังจากมีการนัดรวมตัวกว่า 2,000 คน ของกลุ่มกะเทยไทย ก่อนที่จะเกิดเหตุชุลมุนขึ้นนั้น ตำรวจได้เข้ามารอไกล่เกลี่ยเรื่องพร้อมกับคุมสถานการณ์ แต่ด้วยจำนวนคนที่มาก ช่วงที่คู่กรณีลงมาเอาข้าวด้านล่างของโรงแรมแล้วเต้นยั่วหน้ากระจก แต่จังหวะรอลิฟต์แล้วหนีไม่ทัน ก็ได้ถูกกลุ่มที่มารวมตัวเข้าไปรุมทำร้าย ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ต้องพยายามห้ามปรามอย่างหนัก

ภาพ @honekrasaeofficial

ชา เล่าต่อว่า หลังจากเหตุการณ์หน้าลิฟต์ ช่วงชุลมุนที่เป็นข่าวในคลิปเป็นตอนที่ตำรวจได้นำตัวกะเทยฟิลิปปินส์ที่เป็นคู่กรณีออกมาจากโรงแรมเพื่อไปโรงพัก ปรากฏ คนจำนวนมากพยายามกรูกันเข้าไปหากะเทยต่างชาติจนกลายเป็นเรื่องราวสุดชุลมุนที่สุดท้าย ทั้งรองเท้าติดคริ นักทุบความเร็วแสง นักรบทางอากาศ หนุมานไต่กำแพง ต่างพากันออกอาวุธโดยพร้อมเพรียงจนเจ้าหน้าที่ต้องขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

สุดท้ายตำรวจที่มาระงับเหตุ สามารถพากะเทยฟิลิปปินส์ไปสถานีตำรวจได้ ขณะที่ฝั่งของกะเทยไทยก็ยกโขยงตามไป เพราะกลัวจะไม่ได้รับความยุติธรรม

ช่วงหนึ่งมีการสอบถาม คิดว่ากลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ที่มีข่าวมารวมตัวกันในประเทศไทยนั้น เป็นการนัดมาหรือรู้จักกันมาก่อนหน้านี้หรือไม่ แขกรับเชิญหลายคนก็สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการแนะนำกันแบบปากต่อปาก เซตแรกอาจมากันแค่ 3-4 คน ก่อนที่จะมาเรื่อย ๆ จนเป็นกลุ่มใหญ่

ความคืบหน้าของคดีล่าสุด พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุ เบื้องต้นทราบว่า คู่กรณีชาวฟิลิปปินส์ ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวในการเข้าประเทศไทย ซึ่งต้องประสาน ตม.และตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยเฉพาะตรวจสอบกล้องวงจรปิด และ Body Camera ของตำรวจ เพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายให้ได้มากที่สุด

พร้อมกันนี้ กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ จะต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ได้ทั้งหมดก่อน จึงจะทราบว่ามีบุคคลใดที่หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วบ้าง ส่วนที่คู่กรณีกังวลอีกฝ่ายจะหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ตรงนี้ตำรวจเองมีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่.

 

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button