แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร จากสหรัฐอเมริกา เผยเปิดรายชื่อเครื่องดื่ม 3 ชนิดที่เป็นมิตรต่อ “ตับ” และ “ระบบย่อยอาหาร” ชาวไทยเฮ เพราะหาซื้อดื่มได้ง่ายในไทย
ดร. โจเซฟ ซัลฮับ (Joseph Salhab) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางเดินอาหารและตับ จากรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา แชร์เคล็ดลับผ่าน TikTok @thestomachdoc เกี่ยวกับ 3 สุดยอดเครื่องดื่มที่ส่งผลดีต่อตับและระบบย่อยอาหาร ที่ทั้งหาซื้อง่าย และราคาไม่แพง แต่คุณประโยชน์กลับนานาประการเกินคาด
สำหรับ เครื่องดื่มที่แพทย์แนะนำประกอบด้วย 3 ประเภท ได้แก่ กาแฟดำ ชาเขียว และ สมูทตี้ ซึ่งทั้ง 3 เครื่องเหล่านี้ต่างอุดมไปด้วยสารอาหารที่แตกต่างกัน แต่เป็นประโยชน์ต่อตับและลำไส้ทั้งสิ้น ซึ่งเครื่องดื่มแต่ละประเภทได้ส่งผลต่อสุขภาพ ดังนี้
1. กาแฟดำ
ดร. ซัลฮับ เผยว่า ‘กาแฟดำ’ เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของตับอย่างมาก เพราะกาแฟดำอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ซึ่งอาจเป็นอีกเหตุผลที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งตับและโรคเกี่ยวกับตับ อาทิ โรคไขมันพอกตับ เนื่องจากตับเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากอนุมูลอิสระมากที่สุดและส่งผลให้เกิดโรคได้ง่าย
จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งตับ (hepatocellular carcinoma) น้อยลง และในการศึกษาชิ้นหนึ่งได้ระบุว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟอย่างสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคตับแข็ง (cirrhosis) ลดลงถึง 80% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่ม
ไม่เพียงเท่านั้นดร. ซัลฮับ ยังแนะนำเพิ่มเติมว่า กาแฟคั่วเข้ม (dark roast) มีฤทธิ์เป็นกรดน้อยกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน ซึ่งหากผู้ใดมีอาการกรดไหลย้อน ลองเปลี่ยนไปดื่มกาแฟคั่วเข้มก็จะเป็นการดี
2. ชาเขียว
แม้ว่ากาแฟดำจะมีประโยชน์มากมาย แต่สำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติของกาแฟดำแล้ว การเปลี่ยนมาดื่ม ‘ชาเขียว’ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีหรือต้องการลดปริมาณคาเฟอีน ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า สารประกอบโพลีฟีนอล (polyphenols) และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ (bioactive compounds) ที่พบในชาเขียว สามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ตับ รังไข ต่อมลูกหมาก ปาก และผิวหนัง
นอกจากนั้นชาเขียวยังมีสารคาเทชิน (catechins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยส่งเสริมสุขภาพทั้งลำไส้และตับอีกด้วย
3. สมูทตี้
สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มคาเฟอีน ด้านดร.ซัลฮับก็มีทางเลือกให้ทุกคนเช่นกัน เพราะการดื่มสมูทตี้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระก็มีประโยชน์ต่อตับและลำไส้เช่นกัน
ดร. ซัลฮับ แนะนำว่า หากต้องการเครื่องดื่มที่ปลอดคาเฟอีน 100% แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้และผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น เบอร์รี่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ทับทิม เชอร์รี่ มะม่วง และ มะละกอ
เหตุเพราะผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นแหล่งรวมของสารต้านอนุมูลอิสระ อาทิ แอนโธไซยานิน (anthocyanins), กรดเอลลาจิก (ellagic acid) และเรสเวอราทรอล (resveratrol) ซึ่งสารเหล่านี้ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายและช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ
ทั้งนี้ สำหรับผู้อ่านท่านใดที่กำลังมองหาเครื่องดื่มที่มีประโยขน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะที่ส่งผลดีต่อตับและลำไส้แล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาด 3 เครื่องดื่มนี้ด้วยประการทั้งปวง ซึ่งทุกท่านสามารถเลือกสรรตามความชื่นชอบได้เลยว่าจะดื่มอะไร หรืออาจปรับเปลี่ยนชนิดของเครื่องดื่มไปตามช่วงเวลา อย่างเช่นในเวลาเช้าอาจดื่มกาแฟดำ เมื่อตกบ่ายก็ลดคาเฟอีนลงมาเป็นชาเขียว และมื้อเย็นก็ดื่มเป็นสมูทตี้ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ข้อมูลจาก soha
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขความจริง ทำไม ‘ชาเขียว’ เป็นสีน้ำตาล แต่ชงเสร็จถึงกลายเป็นสีเขียว
- กดกาแฟไม่ใส่น้ำแข็ง แก้วเล็ก ที่ร้านสะดวกซื้อ ได้ราคาถูกกว่า ทำได้ไหม
- เฉลยที่มา กระป๋องนมตราหมี สารพัดประโยชน์ ปัจจุบันราคาพุ่งเฉียดพัน