ข่าว

บุกช่วย สาวลาว ปีนกำแพงบ้านหนี ร้องถูกนายจ้างกักขัง-ลวนลาม

เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ สาวลาว หลังร้องว่าถูกนายจ้างซึ่งเป็นแพทย์เกษียณกักขังและลวนลาม สุดท้ายเจ้าหน้าที่ให้ปีนกำแพงหนี เนื่องจากไม่มีใครมาเปิดประตู

ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.อุดรธานีว่า มีเหตุหนุ่ม สปป.ลาว ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากน้องสาวถูกนายจ้างกักขังไว้ในบ้านหลังหนึ่งภายในซอยโพนพิสัย 2 ถ.โพนพิสัย ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงประสานกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าเป็น เป็นบ้านปูน 2 ชั้นหลังใหญ่ มีกำแพงรั้วรอบขอบชิด พบนายสมชาย อายุ 25 ปี ชาวแขวงจำปาสัก สปป.ลาว ยืนอยู่ริมถนนบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านนายจ้างของน้องสาว โดยมีหญิงสาวชาวสปป.ลาวยืนร้องไห้ภายในรั้วบ้านขอความช่วยเหลือ เล่าว่าถูกนายจ้างที่เป็นอดีตหมอ ลวนลามและพยายามอนาจารอยู่บ่อยครั้ง

ขณะที่พบว่าประตูรั้วหน้าบ้านล็อก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กดกริ่ง แต่ไม่มีใครออกมาเปิด จึงแนะนำให้หญิงสาวชาวสปป.ลาว ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.แพรวา อายุ 18 ปีเศษ ปีนกำแพงรั้วข้างบ้านออกมา โดยน.ส.แพรวาส่งกระเป๋าเดินทางที่ใส่เสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัวออกมาให้ตำรวจก่อนจะปีนกำแพงรั้วสูงประมาณ 2.5 เมตรออกมาอย่างปลอดภัย ตำรวจจึงนำตัวสองพี่น้องชาว สปป.ลาว มาสอบปากคำที่โรงพัก ส่วนนายจ้างไม่ยอมออกมาแสดงตัวและชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ต่อมา พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรีชา ประดิษฐ์ศิลป์ รอง ผกก.ตม.จว.อุดรธานี, ร.ต.ท.หญิง วิลาสินี อาษานาม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจท่องเที่ยว จ.อุดรธานี ร่วมกันสอบปากคำ นายสมชาย และน.ส.แพรวา ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับตรวจสอบหนังสือเดินทาง และตรวจสอบเอกสารการจ้างงานตำแหน่งงานบ้าน พบว่าเดินทางมาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้ง 2 คน

สอบสวนนายสมชาย เล่าว่า ตนทำงานเป็นช่างเชื่อมเหล็กอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ และเป็นพี่ชายต่างบิดาของ น.ส.แพรวา โดยน้องสาวโทรศัพท์ไปหาแม่ที่ทำงานอยู่ กทม. เพื่อขอความช่วยเหลือว่าถูกนายจ้างซึ่งเป็นอดีตหมอที่เกษียณแล้ว ลวนลามและพยายามอนาจาร แม่ตนจึงโทรบอกให้ตนมาดูน้องสาว พอมาถึงอุดรธานี ก็ได้คุยกับน้องสาวผ่านทางไลน์ว่าตอนเย็นวันนี้น้องสาวจะคุยนายจ้างขอลาออก พร้อมกับขอเงินเดือนที่ยังไม่จ่าย 1 เดือน แต่นายจ้างไม่ยอม และปิดล็อกประตูบ้านไม่ให้น้องสาวตนหลบหนี น้องสาวจึงวิ่งออกมาร้องไห้อยู่หน้าบ้าน นายจ้างยังตามมาค้นกระป๋าเสื้อผ้าของน้องสาว และไม่ยอมเปิดประตูให้น้องสาวออกมา กระทั่งค่ำตนจึงตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

ด้าน น.ส.แพรวา ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนมาทำงานเป็นแม่บ้าน พร้อมกับดูแลคุณย่าวัย 85 ปี หรือแม่ของนายจ้างได้ 6 เดือน ได้เงินเดือนๆ ละ 1 หมื่นบาท เริ่มงานเดือนแรกก็ถูกนายจ้างลวนลามและพยายามอนาจาร ในลักษณะเข้ามากอดจูบลูบไล้ พอตนไม่ยอมและปฏิเสธ พร้อมกับต่อว่านายจ้าง เขาก็จะพูดว่าหยอกเล่นเฉยๆ โดยนายจ้างพยามยามทำแบบนี้ติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้ตนทนไม่ได้ พยายามขอลา แต่นายจ้างไม่ยอม และไม่เซ็นสัญญาเลิกจ้างให้ พร้อมขู่ว่าหากออกไปหรือหลบหนีไป ตนจะมีความผิดสัญญาตามกฎหมาย จึงทำให้ตนทนอยู่มาถึง 6 เดือน ก่อนฟางเส้นสุดท้ายจะขาด ได้โทรปรึกษาแม่และแฟนหนุ่มชาวลาวด้วยกัน และพี่ชายก็เดินทางมาช่วยเหลือในวันนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนหญิง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี ทำการสอบปากผู้เสียหายในคดีนี้ ก่อนที่จะออกหมายเรียกนายจ้างที่ถูกกล่าวหา “กระทำอนาจาร” โดยเบื้องต้นหญิงสาวชาวสปป.ลาวถูกนายจ้างลวนลาม และกระทำอนาจาร เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.-ธ.ค. แล้วหยุดไปช่วงหนึ่ง เพราะน้องเขาไม่ยินยอม แล้วโทรแจ้งพ่อแม่ที่อยู่ สปป.ลาว เพื่อขอความช่วยเหลือ กระทั่ง 2-3 วันที่ผ่าน ก็ถูกกระทำอนาจารอีก ทำให้ทนไม่ไหว จึงได้พูดคุยกับนายจ้างเพื่อขอลาออก แต่นายจ้างไม่ยอม แม่ก็เลยโทรไปบอกลูกชายให้มาช่วยน้องสาว และวันนี้นายจ้างก็ทำอนาจารอีกครั้ง พี่ชายจึงได้โทรแจ้งตำรวจขอความช่วยเหลือ โดยแนะนำให้ผู้เสียหายปีนกำแพงรั้วออกมาก่อน เพราะไม่ปลอดภัยกับตัวผู้เสียหาย ที่เดินทางเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง หลังจากนี้จะหาแนวทางกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ หากผู้เสียหายประสงค์อยากทำงานต่อที่ จ.อุดรธานี รวมทั้งสิทธิสวัสดิการต่างๆ ที่ควรจะได้รับด้วย

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button