เงื่อนงำ “หลวงปู่พูน” มรณภาพปริศนาในกองเพลิง เหลือแต่ศีรษะ ท่านอยู่รูปเดียวในวัด
วานนี้ (3 มีนาคม 2567) เกิดเหตุสลดบีบหัวใจพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ อ.หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อ หลวงปู่พูน ฐิตปุญโญ อายุ 75 เจ้าอาวาสวัดป่าเกษมสุข หมู่ 8 บ้านท่าเสา ต.เพชรละคร มรณภาพในกองไฟที่ป่าหลังวัด สภาพศพถูกเพลิงเผามอด เหลือเพียงท่อนบนและศีรษะบางส่วน ที่ทำให้ระบุอัตลักษณ์ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองไผ่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ สอบถามพยานพบว่า หลวงปู่พูน ท่านจำพรรษาที่วัดนี้เพียงลำพัง มีจริยวัตรของพระนักพัฒนา รักษาดูแลวัดจนร่มรื่น มีป่าต้นไม้ขึ้นรอบวัด และถือศีลอย่างเคร่งครัด นานๆ ทีจึงจะมีพระภิกษุจากวัดอื่นแวะมาจำพรรษาที่วัดบ้าง
ตามกิจวัตรแล้ว ลูกศิษย์จะขับรถมารับหลวงปู่พูนไปบิณฑบาตในหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากวัดไป 2 กิโลเมตร แต่วันนี้กลับไม่พบหลวงปู่ที่กุฏิ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้เกณฑ์ชาวบ้านช่วงตามหา จนมาพบภาพสลดดังกล่าว
ตำรวจได้ตรวจสอบในห้องและบริเวณกุฏิของหลวงปู่พูน แต่ก็ไม่พบร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้แต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นการมรณภาพอย่างมีเงื่อนงำ
ชาวบ้านในพื้นที่หลายคนลงความเห็นว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากในละแวดวัด ระยะหลังมีกลุ่มวัยรุ่นติดยาเสพติดมามั่วสุม คาดว่ากลุ่มคนร้ายได้บุกเข้ามาในวัดเพื่อขโมยของ แต่หลวงพ่อมาเห็นเข้าจึงถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย แล้วถูกนำร่างมาเผาอำพรางที่ด้านหลังวัด
ด้านเพจเฟซบุ๊ก “สุปฏิปันโน” ได้ลงข้อความแสดงความไว้อาลัย หลวงปู่ทองพูน ฐิตปุญโญ ข้อความว่า
“กัมมัสสะโกม๎หิ กัมมะทายา โท กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระ โณ
– เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน , มีกรรมเป็นผู้ให้ผล ,
มีกรรมเป็นแดนเกิด , มีกรรมเป็นผู้ติดตาม , มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสามิ , กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา ,
ตัสสะ ทายา โท ภะวิสสามิ
– เราทำกรรมอันใดไว้ , เป็นบุญหรือบาป , เราจะเป็นทายาท ,
คือว่าเราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นๆ สืบไป
กราบในธรรมที่องค์ครูบาอาจารย์แสดงไว้ให้เห็นเป็นประจักษ์ในดำรัสขององค์สมเด็จชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นหนึ่งไม่มีคลาดเคลื่นคลี่คลายเป็นอื่น”