ทนายกุ้ง เผย ถอนฟ้องปรปักษ์ แต่คดีบ้านอากู๋ ยังเหลือ 4 ผู้ต้องหา รับชะตากรรมชั้นศาล
ทนายกุ้ง เผย ความคืบหน้าคดีครอบครองปรปักษ์ บ้านอากู๋ แม้ ป้าศรีพรรณ เตรียมถอนฟ้องปรปักษ์แต่คดียังไม่จบ ภาณุมาศ เสียชีวิต ศาลตีจำหน่ายได้ ส่วน 4 ผู้ต้องหาที่เหลือ รับชะตากรรมในชั้นศาลตามกระบวนการ
วันที่ 1 มีนาคม 2567 ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์ ทนายความฝ่าย “อากู๋” เหมทัศน์ ที่มีปัญหาถูก นางสาวศรีพรรณ สามัคคี กับพวกรวม 5 คน ฟ้องครอบครองปรปักษ์ ออกมาให้ข้อมูลภาพรวมของคดี ภายหลังจากระหว่างที่ข้อพิพาทกำลังอยู่ในชัน้ศาล ปรากฎ น.ส.ภาณุมาศ น้องสาวของป้าศรีพรรณและเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองจนกลายเป็นข่าวดัง และล่าสุดคู่กรณีเอ่ยปาก เตรียมจะถอนคำร้องในคดีฟ้องครอบครองปรปักษ์แล้ว
ก่อนจะเล่าถึงรูปคดีในปัจจุบัน ทนายกุ้ง ได้เล่าย้อนไปถึงไทม์ไลน์ของคดีก่อนหน้านี้ ที่เรื่องราวได้มีการฟ้องร้องและต่อมาพอกลายเป็นกระแสสังคมคู่กรณีก็ระบุ จะถอนฟ้องคดี มีผู้ต้องหาบางคนบอกจะไปถอดถอนคดีครอบครองปรปักษ์ที่ศาลมีนบุรี แต่พอให้ทีมทนายไปตรวจสอบพบยังไม่มีการยื่นเรื่องถอนฟ้องตามที่กล่าวอ้าง
ทนายความสาวกล่าวต่อว่า ที่ออกมาพูดวันนี้ เพราะหลังจากได้อ่านคำกล่าวอ้างของคู่กรณีที่อีกฝ่ายกล่าวหาว่า ฝั่งของทนายกุ้งและลูกความทำอำนาจเถื่อน ไม่ยำเกรงต่อกฏหมาย ซึ่งเธอไม่เข้าใจว่า ได้มีการกระทำดังกล่าวตามที่กล่าวหาในส่วนไหน เพราะคดีก็ยังอยู่ระหว่งเจรจา ก็มีผู้ต้องหาท่านหนึ่งมาเสียชีวิตเสียก่อน
ทนายกุ้ง ให้ข้อมูลขงอคดีหลังจากที่มีหนึ่งในผู้ต้องหาเสียชีวิต ตรงนี้สามารถเรียกทายาทเข้ามาเป็นคู่ความต่อไปได้ แต่เนื่องจากอากู๋ ได้อโหสิและไม่ติดใจจะเอาความในส่วนของคณภาณุมาศ ต่อ ก็เป็นอันว่าจะเหลือผู้ต้องหา 4 คน อัยการก็ต้องฟ้องต่อ
ส่วนกรณีทนายของผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์ว่า จะถอนให้ แต่อยู่ในเวลาที่เหมาะสม ประเด็นนี้ ทายกุ้งก็ตั้งคำถามกลับว่า เวลาอะไรที่เหมาะสม ? เพราะการถอนคำร้อง สามารถถอนได้ตลอดเวลา ถ้าเป็นความประสงค์ของลูกความ ทนายต้องทำตามประสงค์ของลูกความอยู่แล้ว และการทำความประสงค์ของลูกความ ทำได้ตลอดเวลา แต่ผลของกฏหมายก็ว่ากันต่อไปเป็นคนละส่วนกัน ส่วนอากู่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ไม่เกี่ยวกัน มีหน้าที่แค่รับทราบจากศาลเท่านั้นว่าอีกฝ่ายถอนคำร้อง แต่คดีความก็ยังดำเนินอยู่
ขอบคุณคลิป : นักสืบ คลายทุกข์ – ทนายกุ้ง @thaidetective.
นอกจากนี้ อากู๋ กับคู่กรณียังมีเรื่องคดีฟ้องขับไล่ เรียกค่าเสียหายไว้ด้วย ดังนั้นไม่ใช่ว่า ถอนฟ้องปรปักษ์ปุ๊ เรื่องจบปั๊บ เพราะหนึ่งอากู๋เป็นเสียหายก็มีสิทธิดำเนินคดีเรียกค่าเสียหาย คดียังไม่จบเมื่อมีบุกรุกอยู่ คดีอาญายังอยู่
นักกฎหมายหญิงที่รับผิดชอบคดีให้ฝ่ายอากู๋ยังชี้แจงกรณีที่มีบางกระแสข่าว อ้างว่า “ป้าศรี” บอกถ้าเราถอน อากู๋ก็ต้องถอน
ทนายความยืนยันว่า “ตรงนี้ไม่เกี่ยวกัน” จะถอน-ไม่ถอน ฝั่งของอากู๋ ไม่ได้บังคับอยู่แล้ว ถ้าจะถอนก็เป็นการแสดงความจริงใจ ว่าคู่กรณีจะเจรจากับเราแค่นั้นเอง แต่อีกฝ่ายก็ว่าไปตามกระบวนการของศาล
ทนายกุ้ง ยืนยันการเจรจา สามารถเจรจาได้ทั้งหมด ทุกขั้นตอน ทุกกระบวนความ แม้จะเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ เพราะถ้ารับสารภาพด้วยความจริงใจ ยอมรับทำจริงอะไรจริง ถ้าผู้เสียหายไม่ติดใจและศาลมองว่าขอโทษยอมรับผิดด้วยความจริงใจ ศาลก็อาจจะไม่ให้จำคุกก็เป็นได้
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งในการไลฟ์สดชี้แจงทิศทางของคดีความจนถึงตอนนี้ ทนายกุ้ง เองยังยอมรับว่า เธอก็ไม่ทราบว่า ทนายความของอีกฝ่ายเอาความมั่นใจมาจากไหน ในส่วนของการฟ้องปรปักษ์ที่อ้างว่า มีสิทธิ์จะชนะคดี ตอนนี้คลิปหลักฐานยังมีอยู่กับเธอเยอะเลย ยิ่งเมื่อดูจากที่อากู๋ฟ้องแย้งอีกฝ่ายไปแล้วกระแสสังคมน่าจะไปไม่รอด เลยคิดจะเข้ามาคุย มาเจรจา ถ้าคดีนี้ยังไปต่อ ตนบอกเลยว่าไม่จบ
ช่วงท้าย ทนายกุ้ง ยังบอกอีกว่า ถ้ามีการถอนฟ้องปรปักษ์ จะเป็นผลดีกับพยานฝั่งตรงข้าม เพราะหากฝืนยื่นฟ้อง ดันทุรังไปต่อ จะต้องมีพยาน โดยเฉพาะป้าศรี (น.ส.ศรีพรรณ) จะต้องมาเบิกพยานที่ศาลแน่ ๆ และต้องตอบคำถาม อาทิ นอนตรงไหน ? อะไรยังไง
แน่นอนต้องโดนซักอยู่แล้ว และทนายกุ้งเองเชื่อว่า ป้าศรีต้องตอบไม่ได้แน่ๆ อีกทั้งบัญชีรายชื่อของพยานทุกคนต้องมาขึ้นศาล แม้กระทั่งเจ้าอาวาส หากเกิดกรณีให้การไม่จริง เป็นเบิกความเท็จ เสี่ยงต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท ตามมาตรา 177 วรรคสอง.