ตำรวจเผย ชายสวิสเตะหมอ อาจโดนเพิกถอนหนังสือเดินทาง หากผิดจริง
ตำรวจเผย ชายสวิสเตะหมอ ในจังหวัดภูเก็ต อาจโดนเพิกถอนหนังสือเดินทางได้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าประพฤติไม่เหมาะสมจริง
จากกรณีที่ คุณพ่อของแพทย์หญิงรายหนึ่ง ที่ จ.ภูเก็ต ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ลูกสาวถูก ชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างทำร้ายร่างกาย เตะเข้าไปที่หลัง และอ้างว่าลูกเป็นตำรวจ รวมถึงรู้จักกับตำรวจใหญ่ ซึ่งในเวลาต่อมาชาวสวิสฯคนดังกล่าวระบุว่าตนไม่ได้มีเจตนา แต่สะดุดเท้าไปโดนแพทย์พอดีตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด น.ส.ธารดาว จันทร์ดำ แพทย์หญิงที่เป็นข่าวและนายเกษม จันทร์ดำ ผู้เป็นพ่อ เดินทางมายัง สภ.ถลาง เพื่อให้ปากคำกับพ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง โดยมี พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมทำการสอบปากคำด้วย
โดยทางแพทย์หญิงกล่าวว่ายืนยันจะสู้เต็มที่ เพราะไม่ควรมีใครที่จะมาโดนเรื่องแบบนี้ ไม่ควรจะมีคนไทยคนไหนมาเจอเรื่องแบบนี้ ยืนยันเต็มที่ว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุด ส่วนกรณีที่คู่กรณีจะดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพ์ หลังบิดาโพสต์มีชื่อคู่กรณีในใบแจ้งความ เรื่องนี้เป็นความจริง ถ้าเขาจะฟ้องก็ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนที่คู่กรณีอ้างว่าเป็นการลื่นล้มนั้น ขอถามกลับว่าถ้าลื่นล้มแล้วจะทำอย่างไร
หลังเกิดเหตุก็มีความเครียด มีความกังวล กลัวคู่กรณีเพราะเขารู้จักผู้ใหญ่ ดูเขาเป็นคนที่ร่ำรวย เราเป็นเพียงหมอเล็กๆ คนหนึ่ง ก็อยากให้กฎหมาย ความยุติธรรม และตำรวจเข้ามาช่วยเหลือให้ได้รับความยุติธรรม ที่คนไทยคนหนึ่งควรได้รับ
“ส่วนคำพูดเหยียดนั้นไม่ควรจะมีใครที่ถูกโดนเหยียดเช่นนั้น เขาเป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในไทย มาหากินกับคนไทย ทำงานอยู่ในประเทศไทย อยู่บนแผ่นดินไทย ไม่ควรเหยียดใครว่าใครเป็น Local คุณควรจะนับถือเขามากกว่า เราควรอยู่กันอย่างนับถือ มากกว่าการเหยียดกัน ต่อให้จะรวยล้มฟ้า หรืออำนาจมากแค่ไหน ก็ไม่ควรเหยียดใคร ส่วนคู่กรณีถ้าเข้ามาขอโทษด้วยความจริงใจ ต้องการจะขอโทษจริงๆ ไม่ใช่กลัวว่าจะโดนคดี ก็ยินดีที่จะรับคำขอโทษ” น.ส.ธารดาว กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ภาสกร กล่าวว่า สำหรับผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามข้อกล่าวหาก็จะออกหมายเรียก เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ไม่กังวลอะไร เพราะในวันนี้ทางคุณหมอนำรายงานการตรวจจากแพทย์โรงพยาบาลมาประกอบสำนวนแล้ว เพราะความหนักเบาของข้อหาอยู่ที่ลักษณะของบาดแผล และการรักษาที่แพทย์ลงความเห็นมา
ตอนนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งคณะตรวจสอบความประพฤติของต่างชาติที่เข้ามาในภูเก็ต ผ่านคณะกรรมการ โดยมีตรวจคนเข้าเมืองเป็นเลขาฯ เพราะในช่วงที่ผ่านมาจะมีชาวต่างชาติบางคน ประพฤติตนไม่เหมาะสม ก็จะมาเข้าคณะกรรมการชุดนี้ ถ้าเข้าข่ายในการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ก็จะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ในส่วนการปฎิบัติงานของตำรวจก็ขอให้เชื่อมั่น ที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ในปัจจุบันผู้เสียหายมักจะไม่ทราบความคืบหน้าของคดี เป็นเหตุให้ต้องไปร้องผ่านสื่อ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการเขียน แพลทฟอร์มอยู่ เมื่อผู้เสียหาย แจ้งความจะได้พาสเวิร์ดจากพนักงานสอบสวน แล้วเข้าไปตรวจสอบ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีได้เลยในอนาคต ส่วนกล้องวงจรปิด ทางท่านผู้ว่าก็ได้มีการนำเสนอโครงการไปแล้ว