ข่าว

นักท่องเที่ยวจีน “ตกพาราเซลลิ่ง” จ.ภูเก็ต บาดเจ็บขาหัก หวิดดับอีกราย

สาวจีน เล่าทั้งน้ำตา ตกพาราเซลลิ่ง (เครื่องเล่นร่มร่อน) ที่หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต เล่านาทีเกือบสิ้นลม หลังร่มควบคุมไม่อยู่ ก่อนตกลงมาแข้งหักกระดูกโผล่ โวยมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ ซัดไทยเห็นแก่เงินมากกว่าชีวิตคน

ส่อท่องเที่ยวไทยขายหน้าหนัก เมื่อเน็ตไอดอลจีนรายหนึ่ง นามว่า “น่าต๋าหาน” โพสต์คลิปผ่าน Douyin – 娜达韩 เล่านาทีระทึกทั้งน้ำตา หลังเธอได้รับบาดเจ็บหนัก กระดูกหน้าแข้งซ้ายหัก แผลยาว 15 ซม. เกิดจากตกเครื่องเล่นร่มร่อนไม่ได้มาตรฐานที่ให้บริการอยู่บนหาดกะรน จ.ภูเก็ต อีกทั้งเผยว่าผู้ให้บริการมีท่าทีไม่เต็มใจรับผิดชอบ ทำให้เธอรู้สึกผิดหวัง และเตือนชาวจีนให้หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาผาดโผนตามที่ท่องเที่ยวในไทย

อย่างไรก็ตาม ด้านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ลุยจีน ได้สรุปประเด็นที่ สาวจีนผู้เคราะห์ร้ายเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 67 ไว้ว่า ขณะที่เธอและเพื่อนอีก 2 คนอยู่บนร่มร่อนนั้น จู่ ๆ ร่มก็ควบคุมไม่อยู่ทำให้ขาเธอลงกระแทกพื้นอย่างแรง จนแข้งซ้ายหักครึ่งกระดูกโผล่ออกมา

หลังเกิดอุบัติเหตุ เธอเจ็บปวดอย่างมาก กระทั่งคนให้บริการเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนโทรเรียกรถพยาบาล แต่ด้วยสภาพจราจรที่ภูเก็ต ทำให้รถติดมาก กว่ารถพยาบาลจะมาถึงหาด แจ้งว่าต้องใช้อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เธอพบว่าเครื่องมือไม่พร้อม จนต้องรอต่อไปอีก 5-6 ชั่วโมง กว่าจะส่งไปที่โรงพยาบาลอีกแห่งซึ่งเป็นของเอกชน สุดท้ายเข้ารับการผ่าตัดดามเหล็กที่หน้าแข้ง แผลเย็บยาว 15 ซม.

ทั้งนี้ มีประเด็นที่เธออ้างอิงถึงคนที่ขายเซอร์วิสพาราเซลลิ่งให้ว่ามีท่าทีไม่เต็มใจรับผิดชอบ และตำหนิเรื่องความปลอดภัยการรับมือที่ไม่เป็นมืออาชีพ ดังนี้

1. มาตรการความปลอดภัยต่ำมาก เล่าว่าพอเธอจ่ายเงินเสร็จก็โดนลากไปใส่เสื้อชูชีพทันที ก่อนมีคนให้บริการมาประกบหน้าหลังโดยไม่อธิบายว่าเครื่องเล่นมีหลักการทำงานยังไง แม้เธอพยายามบอกว่า wait wait แต่ฝั่งคนไทยพูดแค่ Hurry Hurry, Safe Safe แล้วลากเธอไปเล่นเลย

2. หลังเกิดอุบัติเหตุแล้วเธอผ่าตัดใส่เหล็กดามเรียบร้อย ทางคู่กรณีแสดงทำพฤติกรรมฉุนเฉียวใส่เธออย่างชัดเจน อีกทั้งบอกว่าเธอแกล้งสำออย ทำเป็นเจ็บหนักเพราะอยากได้เงิน (ล่ามของเธอแปลให้ฟังว่าคู่กรณีพูดอะไร) รวมทั้งคนจากฝั่งคู่กรณียังไม่เชื่อผล CT scan หรือคำวินิจฉัยจากแพทย์ คิดว่าเธอกุเรื่องเพื่อเอาเงิน

3. เธอบอกว่าผ่าตัดใช้ไป 150,000 บาท ซึ่งเธอเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีเพียง 2 แสน (เธอบอกจังหวะนั้นไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ อยากให้จบเร็ว ๆ) แต่คู่กรณีกลับตอบกลับมาว่ามีให้แค่ 5 หมื่นเท่านั้น รวมทั้งมีท่าทีแข็งกร้าวอย่างชัดเจนว่าไม่ยอมจ่ายเพิ่มใด ๆ รวมถึงท้าให้เธอห้ามแจ้งความ สุดท้ายเธอให้ทางโรงพยาบาลเปิดแผลให้คู่กรณีดูชัด ๆ คู่กรณีถึงท่าทีอ่อนลง (แต่เธอไม่ได้ลงรายละเอียดว่าสรุปยอมจ่าย 2 แสนหรือไม่)

4. เธอเตือนเพื่อนชาวจีนว่า บริการในไทยหลายอย่างพวกกีฬาผาดโผนขอให้อย่าเล่น มีความเสี่ยงต่อชีวิต และเธอสังเกตว่าไม่มีคนไทยในพื้นที่เล่นกีฬาผาดโผนพวกนี้เลย มีแต่ชาวต่างชาติรวมทั้งชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก เธอใช้คำว่า “คนพวกนี้ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตพวกเราหรอก เห็นคนต่างชาติแบบตนเป็นแค่แหล่งเงินเท่านั้น”

5. เธอบอกว่าจากที่สอบถามน้องผู้หญิงจากฝั่งที่ขายบริการร่มร่อน พบว่าทุกปีมีอุบัติเหตุแบบที่เธอประสบหลายเคส แต่ไม่เคยเป็นข่าว ยิ่งทำให้บริการแบบนี้น่ากลัวมาก ๆ เพราะหลังจากที่เธอแข้งหักเข้าโรงพยาบาล คู่กรณีก็ยังคงขายบริการนี้ให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

ภาพจาก : ข่าวสด

ล่าสุด คนขับเรือออกมาชี้แจง ปมนักท่องเที่ยวจีนเล่นร่มร่อน บาดเจ็บขาหัก ที่หาดกะรนว่าเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าเยี่ยม พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้กับ นทท.จีน ที่โรงพยาบาล ยันยัน ตรวจสอบในอนุญาตเรือได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้อง

เมื่อสอบถามไปยัง นายธนพล พนักงานเรือ เผยว่า ก่อนที่จะขึ้นก็จะต้องเช็กทิศทางลม แต่พอขึ้นไปลมก็สามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เนื่องจากการทำงานกับธรรมชาติมีความไม่แน่นอน

ก่อนคนขับเรือจะปฏิเสธ เรื่องที่ผู้บาดเจ็บเล่าว่ารอรถพยาบาลนานว่า ไม่เป็นความจริง ตนเล่าว่าเสนอจะขับรถไปส่งที่โรงพยาบาล หลังจากทราบว่าถ้ารอจนกว่ารถจะมาคงนาน แต่สาวจีนไม่ยอม จะรอขึ้นรถพยาบาลเท่านั้น แต่เมื่อรอไปสักพักตนรู้สึกสงสารเพราะเห็นเขาเจ็บ จึงเข้าไปเจรจารอบสองว่าถ้ารอรถพยาบาลก็น่าจะอีกนาน แต่ถ้าขับรถไปเองจะถึงภายในประมาณ 15 นาที เธอจึงยอมให้ขับรถไปส่ง และขณะนั้นก็ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้

อ้างอิงข้อมูลจาก : ลุยจีน, Douyin – 娜达韩

Peangaor

นักเขียนประจำ Thaiger จบการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มศว เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาชี้แจงแตกประเด็นในรูปแบบย่อยง่ายเหมือนเพื่อนเล่าให้ฟัง รวมถึงเรื่อง Pop culture ซีรีส์ อาหาร และเทรนด์แฟชั่นที่กำลังอินเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ preme@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button