ข่าว

ทนายแจงปม คนตายกราบเท้า ขอเลิกฟ้องปรปักษ์ อึ้ง บอกลูกอากู๋ โชคดีที่เจอฟ้อง

วัฒนา เรืองแก้ว ทนายคดีครอบครองปรปักษ์ แจงในโหนกระแส เคลียร์ปมลูกความกราบเท้าขอเลิกฟ้องแต่ถูกปฏิเสธ มือกฏหมายอ้างจำไม่ได้เห็นแต่ไหว้ขอโทษที่ผู้ตายเป็นต้นเหตุสร้างปัญหา ยืนกรานเสียงแข็งคดีฟ้องยึดบ้านคนอื่น สามารถทำได้ตามกฎหมาย

หนุ่ม กรรชัย ลั่นกลางรายการโหนกระแสวันนี้ (27 ก.พ.67) กรณีเพื่อนบ้านฟ้องครอบครองปรปักษ์ เรื่องน่าจะจบไปตั้งนานมาแล้ว แต่กลับกลายมาเป็นอย่างนี้ได้ยังไง หลังเกิดเหตุสลด ภาณุมาศ สามัคคี หญิงวัย 51 ปี หนึ่งใน 5 ผู้ต้องหาซึ่งมีคดีความฟ้องร้องกับ ซัน หลานของอากู๋ “เหมทัศน์” เจ้าของบ้านที่มีโฉนดถูกต้องตามกฏหมาย แต่หลังจากคดีฟ้องร้องกลายเป็นประเด็นสังคม ทำให้ “นุ ภาณุมาศ” กดดันจนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง

ปมวิพากษ์วิจารณ์ถึงตอนนี้ ยังคงมีข้อเคลืบแคลงสงสัยในหลาย ๆ ประเด็น โดยเฉพาะหลังจาก นายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของเพื่อนบ้านที่ฟ้องครอบครองปรปักษ์ ออกมาระบุสาเหตุที่ลูกความคิดสั้นเพราะเจอสื่อกดดัน พร้อมยืนกรานไม่เคยบังคับให้ผู้ตายหรือญาติเดินหน้าฟ้องร้อง

รายการโหนกระแส
ภาพ @honekrasaeofficial

ล่าสุด ในการสัมภาษณ์สดทางโทร.ศัพท์ ทนายวัฒนา ก็ยังคงยืนยันคดีฟ้องร้องปรปักษ์ ตนเองและลูกความดำเนินการตามเงื่อนไขและเป็นสิทธิที่ระบุไว้ในข้อกฏหมาย ว่า สามารถทำได้ จากการที่ลูกความเข้าไปอยู่อาศัยนานกว่า 10 ปี

ส่วนประเด็นคลิปเสียงที่มีการอ้างฝั่งของทนายบังคับให้ภานุมาศ และลูกความที่เหลือ 4 คน เดินหน้าฟ้องครอบครองปรปักษ์ ทั้งที่ฝั่งผู้ตายได้คุยกับ อากู๋ เจ้าของบ้านแล้วพร้อมกับยืนยันว่า เธอเองได้ไปขอร้องทนายด้วยการกราบเท้าให้ถอนคำร้อง แต่กลับถูกปฏิเสธ

เรื่องนี้ ทนายวัฒนา ตอบกลับว่า “ไม่เป็นความจริง” เพราะตนไม่เคยบอกปฏิเสธข้อเรียกร้องตามที่มีการกล่าวอ้าง

ทนายวัฒนาบ้านอากู๋
ภาพ @honekrasaeofficial

ทนายวัฒนา เล่าว่าตอนตั้นได้อธิบาย โดยระบุตนเองไม่ได้กล่าวปฏิเสธกับนางสาวภาณุมาศ เพียงแต่แนะนำในฐานะทนายว่า ให้ถอนคำร้องเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น คดีกำลังอยู่ที่ศาลจะไปถอนก็ได้ มีความพร้อมเมื่อไหร่ก็ไป แต่ต้องรอเวลาที่เหมาะสม เพราะศาลอาจใช้ดุลพินิจ จนส่งผลต่อรูปคดี

ตอนที่อีกฝ่ายจะไหว้ ตนก็บอกว่า ไม่ต้องไหว้ โดยทนายยอมรับว่า หลังเห็นอีกฝ่ายไหว้ขอโทษก็รู้สึกประหม่า แต่ก็ได้ตอบกลับไปว่าไม่ต้องยกมือไห้วขอโทษ แต่ตัวของภานุมาศเองรู้สึกผิดเลยโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย

เมื่อถามว่า มีการกราบเท้าจริงไหม ? ทนายความกล่าว ตนเองจำไม่ได้ จำได้เพียงยกมือไหว้ขอโทษทุกคน ที่สร้างปัญหา ขอไกล่เกลี่ย ส่วนที่เหลือในประเด็นนี้ต้องไปถาม น.ส.ศรีพรรณ พี่สาวผู้ตายเพิ่มเติมว่าวันดังกล่าวเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตนไม่อยากกล่าวอะไรถึงคุณนุมาก เพราะอีกอย่างก็เป็นผู้ป่วย เป็นคนจิตตก ตอนนั้นแกว่า แกรับไม่ไหวแล้ว ที่ถูกกระหน่ำมา ความเห็นจากคอมเมนต์ประชาชอยากได้ของคนอื่นนู่นนี่นั่น ลูกความจึงทนไม่ไหว

คลิปเสียงภานุมาศ อากู๋
ภาพ @honekrasaeofficial

ส่วนตอนที่ กรรชัย สอบถามแล้วทำไมทางทนายเอง ไม่แนะนำให้เลิกฟ้องครอบครองปรปักษ์ เพราะดูตามเนื้อผ้าก็เป็นการได้ที่มาโดยไม่สุจริตจริง ๆ นายวัฒนา มือกฏหมายก็ชี้แจง โดยอ้างถึงตัวของข้อกฏหมายครอบครองปรปักษ์เอง ก็คุ้มครองคนไม่สุจริตอยู่แล้ว “คำว่าปรปักษ์” ความหมายตามกฏหมายก็บอกอยู่แล้วว่า ต้องเป็นชื่อของคนอื่นมาก่อนจนกว่าจะได้กรรมสิทธิตามกฏหมาย

ส่วนเรื่องคำพูดของนุ ที่บอกกับอากู๋ มีการแนะนำให้ผู้ตายทำอย่างนู้น อย่างนี้ ! ทนายวัฒนา ยืนยันชัดเจน ตนไม่ได้แนะนำ แต่ตอนนั้นลูกความทุกคนก็มีความเห็นไปในทำนองเดียวกัน

ช่วงท้าย กรรชัย ถาม “นายวัฒนา” ตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับกระแสที่เกิดขึ้น มือกฏหมายฟ้องครอบครองปรปักษ์ก็ระบุ ตนไม่รู้สึกอะไร เพราะคนอื่น ๆ อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ตนไม่โทษอายกับซันคู่กรณีที่เป็นหลานของอากู๋ เพราะอีกฝ่ายก็ต้องมีที่ปรึกษา แต่ไม่น่าเริ่มต้นเล่นงานหนักกันแบบนี้

“คุณโชคดีนะ ที่มาเจอคนครอบครองปรปักษ์ นะครับ เพราะถ้าเกิดพ่ายแพ้ เขาก็ยอมรับ ถ้าชนะ ก็พูดคุยกันอาจจะคืนให้ (อากู๋)” ทนายวัฒนา เรืองแก้ว ระบุ ก่อนผู้ดำเนินรายการจะแย้งว่า แต่นั่นเป็นบ้านคนอื่น นักฏหมายที่โฟนอินชี้แจงก็กล่าวรับว่า ก็บ้านอีกฝ่ายจริง ! แต่ที่ดินรัฐก็สามารถยึดคืนได้ เพื่อเอามาแจกจ่ายคนจน

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งในรายการ ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์ ทนายควรมหญิงของครอบครัวอากู๋ กล่าวว่า ทางลูกความของเธฟ้องแย้งคู่กรณีเข้าไปในสำนวนที่คู่กรณีฟ้องครอบครองปรปักษ์ โดยเป็นการฟ้องแย้งเรื่องขับไล่-เรียกค่าเสียหายไว้ 6 ปี ซึ่งวันที่ 19 ก.พ. ที่ว่า ภาณุมาศ ผู้ตายไปกราบให้ทนายความถอนคำร้อง จนต่อมาวันที่ 21 ก.พ.67 มีการมาคุยกับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ดูเรื่องนี้ ซึ่งคู่กรณียอมรับผิดและว่าจะถอนคดีให้ มีการส่งข้อความาหา

แต่สรุป วันที่ 23 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา ทนายหกุ้ง เผยว่า ปรากฏเรื่องไม่เป็นดั่งที่คู่กร๊บอกไว้ เพราะกลับมีคำให้การฟ้องแย้งมาในคดีที่มีการฟ้องแย้งกันไปก่อนหน้านี้ ทั้งที่ความเป็นจริงควรที่จะถอนคำร้องไปแล้ว.

ขอบคุณคลิป : รายการ โหนกระแส [Hone-Krasae] official.

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button