สามีผู้ต้องหาครอบครองปรปักษ์ กราบขอโทษอากู๋-สังคม ยันไม่โกรธสื่อ
เพจดัง เผย สามีผู้ต้องหาครอบครองปรปักษ์ที่ผูกคอเสียชีวิต กราบขอโทษอากู๋และสังคม ยืนยันไม่โกรธสื่อ เข้าใจเป็นการทำหน้าที่
@thethaiger_news สามีผู้ต้องหา ขอโทษสังคม #บุกรุก #ครอบครองปรปักษ์ #ทนายเดชา
จากที่ หนึ่งใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกครอบครองปรปักษ์ ผูกคอตัวเองเสียชีวิตในห้องน้ำของบ้านหลังหนึ่งในท้องที่ สน.คันนายาว ก่อนที่ในเวลาต่อมา นายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของผู้ต้องหา จะให้สัมภาษณ์ว่าทางเจ้าของบ้าน ช้สื่อนำเรื่องดังกล่าว และใช้สื่อกดดัน แทนที่จะใช้การเจรจาหรือใช้ข้อกฎหมาย ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก โพสต์ข้อความที่สามีผู้เสียชีวิตขอโทษ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “เสียใจเรื่องที่เกิดขึ้น กราบขอโทษอากู๋ กราบขอโทษสังคม ผมบอบช้ำมาก ผมไม่โกรธสื่อ ถ้าโกรธแล้วภรรยาผมกลับมาได้ผมจะโกรธ ผมเข้าใจสื่อทำหน้าที่หนึ่งในอาชีพต้องเลี้ยงครอบครัว #คดีบุกรุกครอบครองปรปักษ์”
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทนายเดชา หรือ เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของอากู๋ ได้แสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าวว่า สื่อมวลชนเหมือนกระบอกเสียงของประชาชน เพราะคดีความทุกวันนี้ ประชาชนไปแจ้งความแล้วไม่มีความคืบหน้า พร้อมยกตัวอย่างถ้าคดีนี้ถ้าไม่มีนักข่าว เขาคงไม่ได้บ้านคืน ส่วนที่นักข่าวไปกดดันจนเขาฆ่าตัวตาย คงไม่ใช่ แต่อยู่ที่ทนายความของเขา มีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าไหมที่ไปยุยงให้เขาสู้คดี ทั้งๆ ที่หลักฐาน พยานทุกอย่างก็เห็นกันหมดแล้ว ซึ่งการที่ทนายความคู่กรณีพูดแบบนี้ ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ และขอย้ำว่า การนำเสนอความของสื่อมวลชนเป็นการนำเสนอข่าวที่ปกติ นักข่าวไม่ได้ไปบีบคั้นให้ผู้ก่อเหตุถึงแก่ความตาย
อยากขอถามกลับทนายความฝั่งคู่กรณีว่า ที่เขาต้องจบชีวิตตัวเองนั้นเป็นเพราะการยุแยงของตัวเองหรือไม่ การที่เขาบุกรุกเข้าบ้านเป็นครั้งที่ 2 เอาป้ายที่มีข้อความว่า บ้านนี้เป็นบ้านของ 1 ในผู้ต้องหามาติด แบบนี้ถือว่าเป็นทนายที่มีคุณธรรมหรือไม่ ซึ่งวันนี้ลูกความคุณตาย เพราะตัวคุณเองหรือเพราะสื่อ เพราะคุณเป็นคนแนะนำให้เขาบุกรุกครั้งที่ 2 ใช่หรือไม่ เพราะทนายความชุดแรกก็เจรจาไกล่เกลี่ยจนจะจบอยู่แล้ว
ทนายคนเดิมก็ไม่ได้ให้ผู้ต้องหาบุกรุกเข้าไปแล้ว แต่วันดีคืนดีก็ไปเปลี่ยนทนายความคนใหม่ ตนเองได้คุยกับกลุ่มผู้เสียหาย เขาก็บอกว่าเขาเชื่อทนายความคนใหม่ ฝากถึงทนายความว่า คุณธรรมต้องนำกฎหมาย ส่วนสื่อมวลชนเองก็ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงอยู่แล้ว ไม่ใช่เครื่องมืออะไรของตนเอง การไปบุกรุกหรือแย่งบ้านคนอื่น เป็นสิ่งไม่ควรทำ เรื่องนี้เป็นประเด็นสาธารณะ ถ้าวันนี้มีทนายความที่ไม่มีคุณธรรมไปแนะนำให้ไปยึดบ้านคนอื่น ก็จะเกิดความไม่สงบในบ้านเมือง