ช็อก มีประเทศไทยชาติเดียว ใช้เลข 13 ในการทำธุรกรรมทุกอย่าง พร้อมเผย 3 สาเหตุหลัก ข้อมูลคนไทยรั่วถึงมือของมิจฉาชีพ
นาย อธิปัตย์ พลอยพลายแก้ว ผู้อำนวยฝ่ายบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบทุจริตและทรูมันนี่จำกัด ร่วมกับ พ.ต.ท.เกริกไกร วีระเชาวภาส รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 และ พชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษา กสทช. ได้ร่วมออกรายการโหนกระแสเทปพิเศษของ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ชื่อตอน “ตรวจ จับ หยุด มิจฉาชีพออนไลน์! ไม่อยากตกเป็นเหยื่อแอปดูดเงิน” ซึ่งว่าด้วยเรื่องมิจฉาชีพออนไลน์ หลังจากที่มีประชาชนร้องผ่านทางเพจโหนกระแสมามากนั้น
โดยในช่วงหนึ่งของรายการ จนท พูดในรายการโหนกระแส ว่าไม่มีประเทศไหนในโลก ใช้เลข 13 หลักในการทำธุรกรรมทุกอย่าง มีแต่ไทยเท่านั้น
พร้อมกันนี้ยังอธิบายด้วยว่าสาเหตุที่ข้อมูลประชาชนรั่วนั้นมีเหตุผลหลักๆสามข้อได้แก่ 1. ข้อมูลการตลาด คือบริษัทห้างร้านได้ข้อมูลของ ปชช ในฐานะผู้บริโภคไป แล้วมีการเอาข้อมูลเหล่านั้น ไปขายให้คนอื่น เช่น วันก่อน ตำรวจเพิ่งจับได้ คนร้ายเป็นผู้จัดการสินเชื่อธนาคารแห่งนึง เอาข้อมูลลูกค้าไปขายให้คนขายประกันกับมิจ เป็นสาเหตุว่าทำไมบางทีเวลาเราทำธุรกรรมการเงินก้อนใหญ่ๆ ปุ๊บ ซักพักประกันโทรมาหาเลย อันนี้อยู่ภายใต้ กฏหมาย PDPA
2. การจารกรรมข้อมูล หรือการแฮคเอาฐานข้อมูลบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆออกมาโต้งๆ อันนี้อยู่ในกฏหมาย พรบ คอมพ์
3. หลุดจากเหยื่อเอง อันนี้ หนุ่ม กรรชัย เล่าว่า มีกรณีแก๊งค์เงินกู้โทรมาหา “เฮียหนุ่ม” บอกว่าติดเงินแล้วทวงเงินเฮีย กรณีแบบนี้เป็นคนรู้จักเฮียไปโดนแก๊งคเงินกู้มา แล้วยอมให้แก๊งค์เงินกู้เข้าถึงข้อมูลในมือถือ ซึ่งมันจะทำให้มิจเข้าถึงข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อในมือถือเหยื่อทั้งหมด จากนั้นก็เอาข้อมูลนั้นไปหลอกคนรู้จักเหยื่ออีกที
สุดแสบ พนักงานแบงก์ดัง ขายข้อมูลลูกค้า ชื่อละ 1 บาท ฟันเดือนหลายหมื่น
