สภาพัฒน์ แนะ ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับการจ่าย บัตรเครดิต ขั้นต่ำกลับไป 5% ชี้รัฐใช้มาตรการคลังหมดแล้ว ด้านผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. เผยต้องนำมาหารือข้อดีข้อเสีย ย้ำการจ่ายขั้นต่ำนาน ๆ ผลประโยชน์จะไปเกิดกับเจ้าหนี้
วันนี้ (19 ก.พ.67) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2566 แม้ภาคบริการจะยังขยายตัวได้ดี แต่หนี้ครัวเรือนยังเป็นปัญหากับเศรษฐกิจไทย โดยเริ่มเห็นสัดส่วนสินเชื่อกล่าวถึงพิเศษ (SMLs) เปลี่ยนไปเป็นหนี้เสีย (NPL) ในระดับหนึ่ง
โดยในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยง ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะถัดไปมองว่ามาตรการด้านการเงินควรมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมากขึ้นเพื่อช่วยลดภาระของเอสเอ็มอีและภาคครัวเรือนโดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ย
นอกจากนี้ควรผ่อนคลายมาตรการด้านสินเชื่อ โดยมองว่าธปท. ควรปรับลดอัตราการผ่อนชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำลงมาเป็น 5% จากที่ขึ้นมาเป็น 8% ในช่วงต้นปี 2567 เนื่องจากมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยส่วนหนึ่งที่ใช้บัตรเครดิตในการทำธุรกิจ
นายดนุชา กล่าวต่อว่า การลดดอกเบี้ยต้องพิจารณาให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคธุรกิจและภารครัวเรือน อย่างไรก็ตามต้องดำเนินมาตรการควบคู่ไปกับการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อต่างๆ ให้เข้มข้นมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการก่อหนี้เกินตัว ขณะที่หากประชาชนมีการผ่อนชำระขั้นต่ำเป็นเวลานานต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงข้อเสนอของสภาพัฒน์ ที่ต้องการให้ ธปท. ผ่อนคลายมาตรการชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตที่ 5% ต่ออีกระยะหนึ่ง จากปัจจุบันที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 8% ว่า จะต้องนำมาหารือข้อดีข้อเสีย ซึ่งการจ่ายขั้นต่ำนาน ๆ ผลประโยชน์ทจะไปเกิดกับเจ้าหนี้ และที่ผ่านมา ผู้ประกอบการบัตรเครดิต 11 ราย ให้ความร่วมมือในการตัดวงจรหนี้ โดยมีการปรับเปลี่ยนประเภทหนี้ ลดวงเงินชำระ และอัตราดอกเบี้ยแล้ว.
ขอบคุณคลิป : @bankofthailandofficial.
- ออมสิน แจ้งปรับอัตราผ่อนบัตรเครดิต 8% อิงตาม ธปท. เริ่ม 1 ม.ค. 67
- จุลพันธ์ ลงพื้นที่ยัน เงินดิจิทอล มาช้าแต่มาชัวร์
- เศรษฐา เผยผลสำเร็จ แก้หนี้ทั้งระบบ ไกล่เกลี่ยจบกว่า 57%