ตำรวจรวบ พ่อค้ายาหัวใส แบ่งยาบ้าชุดละ 5 เม็ด เลี่ยงโทษ เป็นแค่ผู้เสพ
ตำรวจรวบ พ่อค้ายาหัวใส แบ่งยาบ้าชุดละ 5 เม็ด เลี่ยงโทษคุก เป็นเพียงแค่ผู้เสพ สุดท้ายไม่รอด ตรวจประวัติเจอมีพฤติกรรมเป็นผู้จำหน่าย
พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ออกตรวจการในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างเข้มข้น ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินตามที่กฎหมายกำหนดรวมทั้งยาเสพติดและต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
โดยในช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนำรถวิทยุตรวจการออกตรวจในเขตรับผิดชอบไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 3502 หมู่ 6 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่พบชายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนกำลังขับขี่ไปตามถนนสายดังกล่าว จึงส่งสัญญาณเรียกให้คนขับหยุดรถเพื่อตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์
แต่จากการพูดคุยเจ้าหน้าที่สังเกตพบคนขับรถจักรยานยนต์มีท่าทางพิรุธลักษณะคล้ายกับคนเสพยาบ้า จึงขอตรวจค้นเสื้อผ้าที่สวมใส่มา ผลปรากฏไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าแบบสะพายวางอยู่ตะกร้าหน้ารถ จึงตรวจค้นผลพบยาบ้าอยู่ในซองพลาสติกใสแบบรูดเปิดปิด ซุกซ่อนเอาไว้ในซองบุหรี่อีกชั้นหนึ่ง จำนวน 3 ซอง โดย 2 ใน 3 ซองมียาบ้าอยู่ซองละ 5 เม็ดและอีก 1ซองมียาบ้าอยู่จำนวน 3 เม็ด รวม 13 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายปัญญา โพธิ์อ่อน อายุ 40 ปี ชาว ต.แจงงาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี คนขับขี่รถจักรยานยนต์เอาไว้
จากการสอบสวนนายปัญญา ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ว่า ตนไปซื้อยาบ้ามาจากนายทอม ชาว ต.แจงงาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี จำนวน 3 ชุด ชุดละ 5 เม็ด โดยจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้า จำนวน 2 ชุด อีก 1 ชุดจะเก็บเอาไว้เสพเอง ก่อนถูกจับกุมตนเพิ่งเสพยาบ้าไปจำนวน 2 เม็ด
ส่วนสาเหตุที่แบ่งยาบ้าออกเป็นชุด ชุดละ 5 เม็ดนั้นก็เพื่อป้องกันการถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย เพราะจะมีบทลงโทษที่หนัก และหากลูกค้าที่ตนนำไปขายให้ถูกจับกุม ก็จะเป็นเพียงแค่ผู้เสพ แล้วนำตัวไปบำบัดเท่านั้น ซึ่งการกระทำของนายปัญญา ถือว่าฉลาดที่จะเลี่ยงกฎหมายที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ประกาศใช้กฎหมายว่า ผู้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดเป็นเพียงผู้เสพ
แม้ว่าผู้ถูกจับกุมจะมียาบ้า 5 เม็ดหรือเพียงแค่ 1 เม็ดก็ตาม หากตรวจสอบประวัติแล้วพบว่ามีพฤติกรรมเป็นผู้จำหน่ายก็จะถูกดำเนินเดินคดีตามกฎหมายรวมทั้งใช้มาตรการยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด อยู่ดี
จากการนำตัวนายปัญญา ไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลด่านช้าง ผลปรากฎว่าพบสารเสพติดประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าในร่างกาย จึงถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 คดีเป็น 2 คดีประกอบด้วย 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ 2.เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ส่วนการขยายผล พนักงานสอบสวน สภ.ด่านช้าง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯจะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป