คดีเด็ด หนุ่มหัวหมอ อยู่โรงแรมฟรี 5 ปี ซ้ำทำเนียน สวมรอยเป็นเจ้าของโรงแรม
หนุ่มหัวหมอ อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายในนิวยอร์ก ตีเนียนนอนโรงแรมฟรีมานานถึง 5 ปี ซ้ำยังสวมรอยทำทรงเป็นเจ้าของโรงแรม หลังทางโรงแรมดำเนินเรื่องฟ้อง หนุ่มเจ้าปัญหายังลอยหน้าไม่รู้ตัวว่าผิด
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าว apnews ได้เผยถึงคดีโด่งดังที่กำลังได้รับความสนใจจากชาวนิวยอร์ก เมื่อชายชาวนิวยอร์กรายหนึ่งอาศัยอยู่ในโรงแรมนิวยอร์กเกอร์ จุดแลนด์มาร์คในแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกา เป็นเวลานานถึง 5 ปี Fดยไม่ได้เสียค่าเช่าใด ๆ จากการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายในท้องถิ่น อีกทั้งล่าสุดยังพยายามอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ซ้ำเรียกเก็บค่าเช่าจากผู้เข้าพักคนอื่น ๆ
เรื่องราวสุดชุลมุนนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มิคกี้ บาร์เรโต (Mickey Barreto) ชายวัย 48 ปี ย้ายจากลอสแอนเจลิสมาอยู่ที่นิวยอร์กกับแฟนหนุ่มของเขาในช่วงราว ๆ ปี 2018 ทางแฟนหนุ่มของเขาก็ได้เล่าเกี่ยวกับช่องโหว่ทางกฎหมายที่อยู่อาศัยในนิวยอร์ก ซึ่งได้อนุญาตให้ผู้พักอาศัยในห้องเดี่ยวของอาคารที่สร้างก่อนปีค.ศ. 1969 สามารถเรียกร้องสัญญาเช่า 6 เดือนจากเจ้าของสถานที่ได้
ด้วยเหตุนี้ สองหนุ่มหัวหมอทั้งจึงอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายดังกล่าว และจ่ายเงิน 200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 7,100 บาท เข้าไปเช่าห้องพัก 1 คืน ที่โรงแรมนิวยอร์กเกอร์ (New Yorker) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1930 และเมื่อทางพนักงานโรงแรมมาไล่ออก พวกเขาจึงอ้างว่าได้จ่ายค่าเช่าห้องพักในโรงแรมไปแล้ว 1 คืน และนั่นเท่ากับว่าพวกเขาเป็นผู้เช่าแต่ทางโรงแรมก็ยังยืนกรานที่จะไล่เขาออก
“วันรุ่งขึ้นพวกผมจึงไปยื่นเรื่องต่อศาล แต่ทางผู้พิพากษาก็ได้ปฏิเสธ ฉันจึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาของรัฐ และสุดท้ายฉันก็ชนะการอุทธรณ์” บาร์เรโตเผยเช่นนั้น พร้อมกับกล่าวอีกด้วยว่า เหตุที่ทำให้เขาชนะคดีก็เพราะทนายความฝั่งเจ้าของอาคารไม่ปรากฏตัว ฉันจึงชนะคดีไปโดยปริยาย
จากผลการพิจารณาคดี ผู้พิพากษาจึงสั่งให้ทางโรงแรมมอบกุญแจให้แก่บาร์เรโต นับแต่นั้นมาทั้งสองจึงได้อาศัยอยู่ที่นั่นจนถึงเดือนกรกฎาคมปีค.ศ. 2023 โดยไม่จ่ายค่าเช่าใด ๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะเจ้าของอาคารไม่เคยมาเจรจาสัญญาเช่ากับเขา
ย้อนกลับไปในปี 2019 บาร์เรโตเคยอัปโหลดโฉนดปลอมไปยังเว็บไซต์ของเมือง พร้อมกับอ้างว่าเขาเป็นเจ้าของอาคารทั้งหมด โดยจะมีการโอนย้ายกรรมสิทธิ์จาก Holy Spirit Association for the Unification of World Christianity ซึ่งเป็นผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในปี 1976 มาเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาเอง
ไม่เพียงเท่านั้นเขายังพยายามจะเรียกเก็บเงินจากหน่วยงานต่าง ๆ ในฐานะเจ้าของอาคาร รวมถึงเรียกเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าคนอื่น ๆ ในโรงแรม และจากนั้นบาร์เรโตก็ได้จดทะเบียนโรงแรมภายใต้ชื่อของเขากับกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งนครนิวยอร์กเพื่อชำระค่าน้ำและน้ำเสีย พร้อมกับเรียกร้องให้ธนาคารของโรงแรมโอนย้ายบัญชีมาให้เขา
วีรกรรมที่ผ่าน ๆ มาของบาร์เรโตได้ทำให้ อัลวิน แบรกก์ อัยการเขตแมนฮัตตัน ดำเนินคดีกับเขาในความผิดโทษฐาน “อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโรงแรมนิวยอร์กเกอร์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองหลายครั้งและฉ้อฉล”
ในขณะเดียวกัน ทางเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริงก็ได้ยื่นฟ้องบาร์เรโตไปตั้งแต่ปีค.ศ. 2019 จากเรื่องที่เขาอ้างสิทธิ์อย่างไม่ถูกต้องในโฉนดที่ดิน รวมถึงแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของโรงแรมบนเว็บไซต์ LinkedIn
อย่างไรก็ดี ในขณะนี้บาร์เรโตยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาของอัยการ เขากล่าวว่าเขาไม่เคยตั้งใจที่จะฉ้อโกงใคร และเขาไม่ได้เงินจากการกระทำของเขา ถึงอย่างนั้นบาร์เรโตก็ถูกตั้งข้อหาอาญา แต่ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางเงินประกัน
ข้อมูลจาก apnews
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง