‘ทักษิณ’ ออกเดินทางจาก ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ เข้าพบอัยการคดี ม.112
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อเข้าพบอัยการในคดี ม.112 ขณะที่อัยการชั้นผู้ใหญ่เผยไม่โดนอายัดตัว
จากกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากโรงพยาบาลตำรวจ หลังได้รับการพักโทษ และเดินทางกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า อยู่ที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมี อิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และ เอม พินทองทา มารับ ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า นายทักษิณได้เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้าตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเดินทางไปยังสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 8 ถนนรัชดาภิเษก และ เข้าพบพนักงานอัยการเพื่อเซ็นเอกสารรับทราบนัดของพนักงานอัยการในคดี ม.112 เนื่องจากสำนวนคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด ทั้งนี้การนัดของพนักงานอัยการทุกครั้ง นายทักษิณต้องมาพบอัยการด้วยตัวเอง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ อัยการชั้นผู้ใหญ่ เปิดเผยว่า จากที่พนักงานอัยการได้แจ้งข้อหาให้นายทักษิณแล้ว พร้อมแสดงหมายจับ เท่ากับว่าหมายจับสิ้นผลแล้ว จึงไม่มีเหตุอายัดตัว และอยู่ในฐานะผู้ต้องหา ไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวหา เนื่องจากเหตุเกิดในต่างประเทศ ซึ่งเป็นความผิดมีโทษตามกฎหมายไทย
โดยอัยการสูงสุดเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่มีอำนาจในการออกคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง แม้อธิบดีอัยการยังไม่มีอำนาจ ซึ่งทางสำนักงานอัยการจะนัดไปแจ้งคำสั่งฟ้องในโอกาสต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาเขาอาจจะขอเลื่อนฟังคำสั่ง เพราะยังป่วยอยู่ก็ได้ แต่ถ้าไม่ติดต่อมาเลย แสดงว่ามีเหตุหนี ทางอัยการจะขอหมายจับอีกครั้ง
ดังนั้น การอายัดตัวจะมีได้ต่อเมื่อผู้ถูกกล่าวหายังไม่เคยพบกับพนักงานสอบสวนหรืออัยการเลย สำหรับคดี ม.112 อัยการสูงสุดมีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็น
โดยนายทักษิณ ได้ปฏิเสธ พร้อมกับ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ต่อมาอธิบดีอัยการชั้นสอบสวนได้ส่งหนังสือคำและหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้การของนายทักษิณ ให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีนี้ เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณา ขอให้สอบปากคำพยานเพิ่ม 10 ปาก เป็นผลให้หนังสือร้องขอความเป็นธรรมและสำนวนคดี ถูกส่งไปยังสำนักงานสอบสวน คาดว่ายังต้องใช้เวลาสอบปากคำพยานอีกระยะหนึ่ง เมื่อการสอบสวนครบถ้วนสมบูรณ์จะส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุดพิจารณา