ข่าวข่าวการเมือง

‘ประชาธิปัตย์’ อัด ‘ก้าวไกล’ ความคิดเพี้ยน จี้รัฐบาลเคลื่อนไหว กรณีรุกรานขบวนเสด็จ

ราเมศ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อัด ก้าวไกล ความคิดเพี้ยนไปจากหลักความถูกต้อง จี้รัฐบาลเคลื่อนไหว กรณีรุกรานขบวนเสด็จ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุชุลมุน หลังจากที่กลุ่มทะลุวังปะทะ ศปปส. หรือ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน บนสถานีรถไฟฟ้า BTS เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ตนไม่เห็นด้วยต่อการใช้ความรุนแรง ไม่ได้ส่งผลดีต่อประเทศและทุกฝ่าย แต่จุดเริ่มต้นเกิดจากมีบุคคลไปป่วนขบวนเสด็จ

ดังนั้นความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในเรื่องการป้องกันและจริงจังในการบังคับใช้กฎหมาย ยังเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งในการปกป้องดูแลสังคมให้อยู่กันด้วยความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะรัฐบาลที่มีหน้าที่โดยตรง ในเรื่องดูแลความสงบเรียบร้อยต้องมีนโยบายให้ชัด

แต่เหตุการณ์รุกรานขบวนเสด็จผ่านมา หลายวันกลับแทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวจากรัฐบาล เพิ่งจะมีเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญมากกว่านี้

นายกฯ ควรจริงจัง หยิบยกไปพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกคนจะต้องมีความรู้สึกกับเรื่องนี้ให้มากกว่านี้ อยากรู้เช่นกันว่า ที่ประชุมครม.ในวันอังคารนี้จะมีการหยิบยกไปพูดคุยกันอย่างเป็นทางการหรือไม่

นายราเมศกล่าวว่า การทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น แม้พรรคจะเป็นฝ่ายค้านร่วมกันกับพรรคก้าวไกล แต่ได้ย้ำเสมอว่า เราทำงานร่วมกันในสภาฯได้ แต่อุดมการณ์ในหลายเรื่อง เรามีจุดยืนที่แตกต่างกัน การที่มีสมาชิกพรรคก้าวไกลมาลอยหน้าลอยตาให้สัมภาษณ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สังคมก็รับไม่ได้ต่อแนวคิดที่ยังเอื้ออาทรต่อผู้กระทำผิดรุกรานขบวนเสด็จ

อีกทั้งแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลก็ผิดเพี้ยนไปจากหลักความถูกต้อง เพราะยังคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งไม่เป็นความจริง เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากจิตสำนึกที่เลวร้ายที่ต้องการละเมิดต่อกฎหมายละเมิดต่อสถาบัน การสื่อสารต่อสาธารณะที่ผิดเพี้ยนก็เป็นประเด็นที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายตามมาอีกไม่รู้จบ

“พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเก็บข้อมูล เพื่อส่งต่อให้กรรมาธิการที่ทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเรื่องนิรโทษกรรม เพื่อให้มีการพูดคุยกันในเรื่องคดีที่เกี่ยวกับความผิดมาตรา 112 ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 เพราะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับในส่วนของ สส. ก็จะใช้กลไกในสภาฯเพื่อพิจารณาในเรื่องมาตรการการป้องกันความปลอดภัยขบวนเสด็จ ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อมิให้คนที่คิดร้ายต่อประเทศชาติย่ามใจได้อีกต่อไป”นายราเมศ กล่าว

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button