ผู้กองแคท ประกวดนางงาม คนถกความเหมาะสม หลังโฆษก ตร. ชี้แจงแล้ว
ชาวเน็ตเสียงแตก “ผู้กองแคท” เข้าประกวดเวทีนางงาม นางสาวไทย เป็นการปฏิบัติหน้าที่เหมาะสมหรือไม่ เหตุมีกระแสวิพากย์วิจารณ์ ข้าราชการตำรวจลาหยุดได้กี่วัน?
หลังจากที่ ร้อยตำรวจเอก อาทิติยา เบ็ญจะปัก หรือ ผู้กองแคท ตำรวจหญิงสังกัดสำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ ได้เคยเกิดประเด็นในวงการสีกากี เรื่องการเลื่อนยศเร็วผิดปกติ 8 ขั้นใน 4 ปี จนสังคมต่างตั้งข้อสงสัย กระทั่งล่าสุด ผู้กองแคท ก็ได้เกิดกระแส ดราม่าโซเชียลอีกครั้ง กรณีเดินสายประกวดนางงาม เวทีนางสาวไทยน ทำให้เกิดคำถามว่า การเข้าร่วมประกวดเวทีนางงามไทยบ่อยครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อเวลาทำงานราชการหรือไม่ และทำไมถึงได้หยุดเยอะกว่าตำรวจคนอื่น ๆ ?
ทั้งนี้เฟสบุ๊กเพจ กระทรวงนางงามแห่งประเทศไทย ได้โพสต์แคปชั่น เกี่ยวกับประเด็นการเดินสายประกวดนางงามของ ผู้กองแคท เมื่อไม่นานมานี้ โดยระบุว่า
“พึ่งอำลาตำแหน่งบนเวทีนางสาวไทยชลบุรีไป ไม่มีวี่แวว ไม่มีข่าวว่าจะมาลงอีก วันนี้มารายงานตัวเข้ากองแบบเซอไพรส์ ผู้กองแคท อาทิติยา กับการมาประกวดอีกครั้งบนเวทีนางสาวไทย 2567 ปีนี้คาดสายสะพายนครราชสีมาบ้านเกิด ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก นางสาวไทยนครราชสีมา 2567″
จากนั้นก็มี ชาวเน็ตส่วนใหญ่ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น บนเฟสบุ๊กโพสต์ดังกล่าว แสดงความคิดเห็นถามถึงความเหมาะสม ว่าเหตุใดข้าราชการตำรวจ จึงสามารถเดินสายประกวดนางงามได้ ในขณะที่ตำรวจบางคนไม่มีโอกาสได้ลาหยุดทำตามฝันบ้าง?
“ปีนึงทำงานกี่วันครับเนี่ยยยย เดินสายไม่หยุด”
“สวยแต่เป็นตำรวจเขาว่างขนาดนี้เลย”
“คนนี้ที่ได้เลื่อนยศไว ๆ ใช่ปะ 555”
“มีเวลาว่างมาประกวดด้วย เค้าแบ่งเวลาดีจัง”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เคยให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว โดยอธิบายว่า อยู่ที่ต้นสังกัดที่ต้องควบคุมกำกับดูแลอยู่แล้ว หากมีการไปประกวดก็ต้องดูว่ามีการลาหรือขออนุญาตถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ การมอบหมายหน้าที่ต้องไม่ให้เสียหายต่อราชการตำรวจ ซึ่งตรงนี้ต้นสังกัดจะต้องเป็นคนตรวจสอบควบคุมดูแลเรื่องความประพฤติและการมอบหมายหน้าที่ลักษณะงาน
ยอมรับว่าในระเบียบไม่มีข้อห้ามชัดเจนว่าไม่ให้ประกวดนางงาม แต่จะเป็นระเบียบลักษณะกว้าง ๆ ไม่ให้ประพฤติหรือไปกระทำการใดที่เป็นการเสื่อมเสีย เช่น การประพฤติตนที่ไม่เหมาะสม ทุกอย่างมีกฎระเบียบวินัยกำหนดไว้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นข้าราชการตำรวจหรือข้าราชการสังกัดใดก็จะมีระเบียบอยู่แล้ว
หากพบว่ามีพฤติกรรมการใดที่เห็นว่าไม่เหมาะสมก็จะมีตั้งแต่การเข้าไปตักเตือนหรือตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องวินัย ส่วนกรณีดังกล่าวเป็นการหารายได้เสริมนอกเวลาราชการได้หรือไม่นั้น ไม่ขอพูดเฉพาะเจาะลงว่าเป็นบุคคลใดแต่การดำเนินการจะต้องไม่กระทบกับเวลางานราชการ ต้องมีการลาที่ถูกต้องซึ่งมีระเบียบกำหนดไว้อยู่แล้ว โดยผู้บังคับบัญชาชั้นต้นจะต้องคอยกำกับดูแล
หากสรุปให้ชัด คือ การที่ตำรวจคนใดคนหนึ่งจะลาหยุดเพื่อไปเข้าประกวด หรือทำกิจกรรมอย่างอื่น ไม่ได้มีกฎข้อห้าม และการหารายได้เสริมนอกเวลาราชการ จะต้องไม่กระทบต่อเวลาการทำงาน ซึ่งผู้บังคับบัญชาชั้นต้น จะต้องคอยกำกับดูแลนั่นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง