ข่าวกีฬาพรีเมียร์ลีกฟุตบอล

“แมนยู” วางโปรเจกต์ใหญ่อัพเกรด “โอลด์ แทรฟฟอร์ด” เพิ่มความจุสนามเฉือดแสน

แมนยู วางโปรเจกต์สุดยิ่งใหญ่เตรียมอัพเกรดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้มีความจุเฉือด 1 แสนที่นั่ง พร้อมให้เป็นเวมบลีย์แห่งตอนเหนือของประเทศ

วันที่ 7 ก.พ. 2024 เทเลกราฟ (Telegraph) ออกมารายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผุดเมกะโปรเจกต์อัพเกรดรังเหย้าของตัวเองครั้งใหญ่เพื่อให้ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเวมบลีย์แห่งตอนเหนือของประเทศในอนาคต

โดยตามแหล่งข่าวได้ระบุว่า เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวเมืองผู้ดีที่ลงทุนซื้อหุ้นสโมสร 25 เปอร์เซนต์ เป็นหัวเรือในการพัฒนาสนามในครั้งนี้

เทเลกราฟ ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “สโมสรต้องการสนามที่รู้สึกทันสมัย สวยงาม และเหนื่อกว่าทุกสนามในปัจจุบัน รวมไปถึงคงเป็นเรื่องที่ดีที่ประเทศจะมีสนามระดับท็อปเพิ่มอีกสนาม และจะถูกเรียกว่าเวมบลีย์แห่งตอนเหนือ”

อย่างไรก็ตาม เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ยังต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการเงิน และทัพปีศาจแดงอาจจะได้รับความช่วยเหลือในการหักภาษณ และผ่อนกฎบางประการ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องใช้งบประมาณราว 800 ล้านปอนด์ หรือราว 36,000 ล้านปอนด์ ในการปรับปรุงสนามเพิ่มความจุจาก 74,000 ที่นั่ง เป็น 90,000 ที่นั่ง

สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงแข่งขันนัดถัดไปในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบกับ แอสตัน วิลล่า ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 23:30 น. ตามเวลาประเทศไทย

People gather outside the stadium during a commemoration of the Feb. 6,1958, Munich air disaster before the English Premier League soccer match between Manchester United and West Ham at the Old Trafford in Manchester, England, Sunday, Feb. 4, 2024. On board the crashed plane was the Manchester United football team, nicknamed the Busby Babes, along with supporters and journalists. Twenty-three of the 44 passengers on board the aircraft died in the crash. (AP Photo/Dave Thompson)

อ้างอิงข้อมูลจาก : 1

sorrawit

นักเขียนข่าวกีฬาประจำ Thaiger มีความสนใจในด้านกีฬาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรืออเมริกันฟุตบอล รวมไปถึงชื่นชอบเกมและอนิเมะเป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันสั่งสมประสบการณ์เขียนบทความกีฬาออนไลน์ มากกว่า 4 ปี หัวข้อที่เชี่ยวชาญคือเรื่องกีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล ช่องทางติดต่อ gig@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button