ชายพิการโยกสามล้อ ยกมือไหว้ขอโทษนักข่าว หลังชี้หน้าด่าหยาบ ยอมรับเครียด
ชายพิการโยกสามล้อ ยกมือไหว้ขอโทษนักข่าว กรณีชี้หน้าด่า หลังคุยกับเจ้าอาวาส ยอมรับเครียด ไม่ได้หิวแสง กลัวทำไม่สำเร็จ
จากกรณี นายมณฑล ชายพิการโยกสามล้อจากสุโขทัย ไปที่กรมบัญชีกลาง กรุงเทพฯ หลังจากที่ ผู้พิการไปตรวจสอบเบี้ยคนพิการ และทราบว่าไม่มีเงินโอนเข้ามาในบัญชีตั้งแต่ปี 2563 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่อำเภอศรีสัชนาลัย ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ตนเองถูกตัดสิทธิผู้พิการ บัตรประชาชนก็ไม่สามารถทำได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกเอกสารทะเบียนราษฎรให้กับตนเอง และบอกว่าจะต้องไปทำการยืนยันสิทธิด้วยตนเองที่กรมบัญชีกลาง จนกลายเป็นข่าวดังและได้รับการสนใจจากประชาชน ก่อนที่จะเป็นประเด็นเนื่องจากนายมณฑล ชี้หน้าด่านักข่าวด้วยถ้อยคำรุนแรงนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายมณฑล ได้หลบเข้าไปยังวัดราชบำเพ็ญ ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ทันทีเมื่อ นายมณฑล เห็นผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลสังเกตการณ์เรื่องความปลอดภัย ได้โวยวายด่ากราดเช่นเคยและไม่ขอตอบคำถามใดๆ เพราะตนไม่เคยเรียกร้อง ไม่ต้องการหน่วยงานใดๆ เข้ามาช่วยเหลือ เพราะตอนแรกตนได้ขอความช่วยเหลือกลับไมใมมีใครสนใจ และไม่ขอตอบว่าเมื่อไหร่ตนจะเดินทางเข้า กทม.
อย่างไรก็ตาม พระครูสังฆรักษ์ดุสิต จันทโชโต เจ้าอาวาสวัดราชบำเพ็ญ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พูดคุยกับ นายมณฑล โดยกล่าวว่า อยากจะให้ นายมณฑล แสดงกริยาวาจาพูดคุยกันดีๆ เพราะนักข่าวเดินทางมาที่นี่ต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือ อย่าไปกล่าวหาใคร และอาตมาก็ให้อาศัยวัด เพราะคิดว่าโยมเป็นคนดี เป็นคนพิการ ให้อาศัยที่วัดแห่งนี้หลับนอน เพราะไม่สามารถไล่ไปไหนได้เช่นกัน อยากให้โยมใจอ่อนลงบ้าง คุยกับทุกฝ่ายดีๆ และแยกแยะว่าใครทำดีหรือไม่ดีกับเรา ผู้สื่อข่าวมาทำตามหน้าที่ และเข้ามาช่วยเหลือ
ยืนยันว่า นายมณฑล พักเหนื่อยอยู่ที่วัดได้ เพราะวัดเป็นพื้นที่สาธารณะ ใครจะเข้ามาก็ได้ เช่นเดียวกับผู้สื่อข่าว นายมณฑล ก็ไม่มีสิทธิไล่ แต่ระหว่างนั้น นายมณฑล ได้เก็บเสื่อ ผ้าห่ม หมอน กลับขึ้นรถสามล้อ และยังรออยู่ใต้ถุนศาลการเปรียญ ส่วนทีมข่าวจึงตกลงกันแยกย้ายกลับ ให้ นายมณฑล ได้พักผ่อน
ต่อมา นายมณฑล ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้หิวแสง ไม่ได้ต้องการเป็นข่าวดัง เพียงแต่ต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ด้วยการโยกรถสามล้อคนพิการจากสุโขทัยมายัง กทม. เพื่อมาทวงสิทธิให้กับคนพิการทั้งประเทศ เนื่องจากตนเชื่อว่ายังมีผู้พิการอีกจำนวนมากที่ถูกตัดสิทธิโดยไม่ชอบธรรม จึงต้องการจะโยกรถสามล้อคนพิการไปยังกรมบัญชีกลางและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสอบถามกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เท่านั้น
ตนไม่ได้ต้องการเงินบริจาคไม่ต้องการการช่วยเหลือ ทั้งการทำบัตรประชาชน และการต่ออายุบัตรผู้พิการเพื่อรับสิทธิ 800 บาทแต่อย่างใด แต่ตนต้องการจะทำให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ นั่นก็คือการเดินทางไปให้ถึงตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ตนมีจุดประสงค์เพียงเท่านี้จริงๆ หากได้รับคำตอบที่พอใจก็จะเดินทางกลับสุโขทัยทันที และหากข้อสงสัยใดที่ตนเข้าใจผิด ก็พร้อมจะกราบขอโทษต่อหน้ารัฐมนตรี
นอกจากนี้ นายมณฑล ยังได้กราบขอโทษสื่อมวลชนที่ตนแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงด่าทอ แต่อยากให้เข้าใจว่าตนไม่ได้นอนมาแล้ว 3 วัน รู้สึกเครียดและกังวลว่าสิ่งที่ทำนั้นจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ เพราะเกรงว่าถ้านักข่าวมาทำข่าว ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจำนวนมาก เกรงว่าจะมีการสกัดกั้นไม่ให้ตนไปถึงจุดหมาย
นายมณฑล กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากจะฝากบอกสื่อทุกสำนักว่าขอให้ไปรอตนที่กรมบัญชีกลางและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หากเมื่อไหร่ที่ตนไปถึงแล้วจะแจ้งให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาสัมภาษณ์สอบถามได้อย่างเต็มที่
หนุ่มพิการโยกสามล้อ ออกเดินทางมุ่งเข้า กทม. ไม่ยอมให้ช่วย ชี้หน้าด่า จนท.