ตำรวจร่วมกันเข้ารวบตัว บีมชายคา สาวหลอกเหยื่อไปนอนด้วย ก่อนขโมยทรัพย์เหยื่อ เผยมีเหยื่อเสียหายหลายราย แต่ไม่กล้าแจ้งความ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.สส.1 บก.สส.บช.น. จับกุม น.ส.ภัทราภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ บีมชายคา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 313/2567 ลงวันที่ 22 ม.ค. 2567
ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นซึ่งได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้โดยมิชอบ เพื่อใช้เบิกถอนเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
โดยจับกุมได้บริเวณด้านหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับชุดสืบสวนนครบาลว่า น.ส.ภัทราภรณ์ จะใช้วิธีการตระเวนหาเหยื่อตามสถานบันเทิงในย่านกรุงเทพฯ เมื่อพบผู้เสียหายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และมีการแลกเปลี่ยนไอดีไลน์กัน
ผู้ต้องหาได้นัดพบเจอผู้เสียหายที่ห้องของผู้เสียหาย โดยทำทีว่าจะขอเข้าพักค้างคืน เมื่อสบโอกาสระหว่างที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำและเผลอ จึงได้นำเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายหลบหนีไป ได้สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 เส้น น้ำหนักประมาณ 6 สลึง, พระ 1 องค์, แหวนทอง 1 วง น้ำหนักประมาณ 2 สลึง, บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ และใช้บัตรกดเงินออกมาได้อีก 3,700 บาท จึงได้แจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวจนถูกออกหมายจับ และจับกุมได้ที่ห้องย่านรามคำแหง
จากการสอบปากคำพบว่า มีการกระทำในลักษณะนี้อีกจำนวนหลายครั้ง ได้เงินและของมีค่า ครั้งละ 20,000-40,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย แต่มักจะเกิดความอับอาย ไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิด เพราะเกรงจะเป็นข่าวและมีผลกระทบต่อครอบครัว จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่ง สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ให้ระมัดระวังสาวหน้าตาดี จะเข้ามาตีสนิทพูดคุยให้เหยื่อที่เป็นเป้าหมายได้ตายใจและจะไม่มีการลงมือในทันที แต่จะแลกเบอร์โทร ไลน์ พูดคุยและนัดเจอกันในภายหลัง เมื่อมีการนัดเจอและพูดคุยกันแล้ว ก็จะขอไปนอนด้วย อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ฉกเอาทรัพย์สินหายไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวต่อว่า หรือบางรายอาจจะโดนมอมยา รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อรุ่งเช้า พบว่าทรัพย์สินหายไปแล้ว ขอเตือนสตินักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแสงสียามราตรีคงต้องระมัดระวังภัยจากเหล่ามิจฉาชีพที่มุ่งหวังในทรัพย์สิน แต่ละรายจะใช้วิธีการไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องระมัดระวังไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้า หรือเชื่อคนง่ายเกินไป
