เปิดใจ 2 มือตบสนั่นสิชล “มาดามเจนนี่ VS กาลลี่” เดิมพัน 1 หมื่น ซัดกันเลือดอาบฝ่ายรุ่นพี่เผยปมปรึกษาขายยาลดความอ้วนเป็นชนวน ก่อนอีกฝ่ายโฟนอินโต้หนังคนละม้วน
วันที่ 5 ก.พ.2567 รายการโหนกระแส ได้เชิญ มาดามเจนนี่ และ กาลลี่ สองหญิงสาวที่ตกเป็นข่าวท้าตบกันผ่านโซเชียล ก่อนสุดท้ายเล่นกันจนเลือดอาบแม้ตำรวจเข้าไปห้ามทัพ โดยในรายการยืนยันว่า คู่กรณีเป็นที่รู้จักกว้างขวางในอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเรื่องทั้งคู่มีการไลฟ์สดด่ากันไปมา ก่อนจะท้าทายจนนำไปสู่การตบกันสนั่น
ทำให้วันนี้ในรายการของหนุ่ม กรรชัย จึงไม่พลาดที่จะไขปริศนาต้นสายปลายเหตุที่นำมาซึ่งศึกอันดุเดือดของทั้งสองหญิงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่นับถือกันมาก่อน
เริ่มมา เจนนี่ สาวคนดังของ อ.สิชล ซึ่งทำอาชีพขายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เล่าว่า กาลลี่ คู่กรณีเดิมทีเป็นรุ่นน้องที่รักมาก สนิทสนมกันมานาน แต่ปัญหาเริ่มมามาเกิดตอนคู่กรณีมาปรึกษาเรื่องขายยาลดความอ้วน ซึ่งตอนนั้นเธอเองไม่แนะนำเพราะอันตราย แต่ต่อมาจู่ ๆ กาลลี่ไปโพสต์ด่าเจนนี่ในเฟซบุ๊ก อ้างว่าถูกขายของตัดหน้า ซึ่งเจนนี่ยืนยันว่าไม่ได้เลียนแบบก่อนมีการไปเคลียร์ใจขอโทษขอโพยกันเข้าใจเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม เจนนี่ อ้างว่า กาลลี่ ไม่ยอมจบ มีการไปโพสต์ด่าทอเธออีกครั้ง คราวนี้ระบุชื่อของเธอเต็ม ๆ ว่า ท้าตบหน้าโรงพักสิชล นอกจากนี้ยังมีข้อความทำนองท้าทายอีกหลายโพสต์ จนเรื่องบานปลายไปถึงน้องสาวของมาดามเจนนี่ทีชื่ออิงอิง เข้ามามี่สวนร่วมด้วย โดยมาดามเจนนี่ ประกาศวางเดิมพันใครชนะเธอพร้อมจ่าย 10,000
ด้าน กาลลี่ โฟนอินชี้แจงว่า สาเหตุที่ทะเลาะกัน ไม่ใช่เรื่องขายยาลดความอ้วนปาดหน้าอะไรทั้งหลาย เพราะสาเหตุที่แท้จริงคือเจนนี่ไปนินทาตนกับคนอื่น เอาตนไปพูดเสียๆ หาย ๆ บอกว่าตนขายตัว ไปเป็นเมียน้อยเขา ทำให้เรื่องนี้ตนไม่พอใจ
กาลลี่บอกว่าเรื่องที่ด่ากันไปกันมามันไม่มีอะไรเลย แต่ที่ฟิวส์ขาดถึงขั้นลงไม้ลงมือ คือการที่เขามาด่าพาดพิงถึงแม่ มันยอมไม่ได้ ถ้าไม่มีเรื่องด่าแม่ก็ไม่มีเรื่องตบกันสนั่นเมือง
ส่วนเรื่องที่มีการอ้างว่า ให้น้องสาวของเจนนี่ที่ชื่อ อิงอิงมาตบแทนนั้น อีกฝ่ายก็ยืนยันว่า จะให้ไปตบกับน้องสาวของคู่กรณีจะไปเพื่ออะไร ในเมื่อคนที่มีปัญหากันคือ เจนนี่ ไม่ใช่อิงอิง
ส่วนกรณีเรื่องของบังเด่น ซึ่งเป็นแฟนเก่าของกาลลี่ เลิกกันไปนานมากแล้วเมื่อ 7-8 ปีก่อน แต่ปัจจุบันประกาศตัวเป็นผัวเป็นเมียกับเจนนี่ในเฟซบุ๊ก กาลลี่บอกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฝ่ายชายแล้ว ก็อยากรู้ว่าแล้วบังเด่นมาเกี่ยวอะไร
สุดท้ายต่างฝ่ายมองว่าเมื่อลงไม้ลงมือกันไปแล้วก็อยากจะให้เรื่องจบๆ กันไป แล้วแยกย้ายกันไปทำมาหากิน ต่างฝ่ายต่างขอโทษกัน ยืนยันว่าจะไม่ต่อความยาวกันอีก อย่างไรก็ตามเรื่องคดีความที่เป็นคดีสมัครใจทะเลาะวิวาท ก็ต้องให้ดำเนินคดีกันไปทั้งสองฝ่าย ส่วนการโพสต์หมิ่นประมาทอะไรต่างๆ นานา ก็ต้องว่ากันไปว่าใครจะดำเนินคดีใครอย่างไรต่อไป.
