ข่าวข่าวการเมือง

‘ทนายอั๋น’ บุกยื่น กกต. สอบ ‘เรืองไกร’ อาจเข้าข่ายยื่นหลักฐานเท็จ หุ้นสื่อ ITV

ทนายอั๋น ภัทรพงศ์ บุกยื่น กกต. ตรวจสอบ เรืองไกร ส่อเข้าข่ายยื่นหลักฐานเท็จ กรณีประเด็นหุ้นสื่อ ITV ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น เข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทวงถามกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคยยื่นเรื่องหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต่อ กกต. ซึ่งอาจจะเข้าข่ายยื่นความเท็จ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย นายพิธา ไม่พ้นสมาชิกภาพ สส. เนื่องจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ประกอบกิจการหรือมีรายได้จากกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน

Advertisements

โดยทนายอั๋นกล่าวว่า เนื่องด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา กรณีถือครองหุ้นไอทีวีของนายพิธา ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไม่ได้มีสภาพเป็นสื่อสารมวลชน วันนี้ตนจึงมาเตือนความทรงจำระหว่างตนกับนายเรืองไกร และกกต.

เมื่อเดือน พ.ค.66 นายเรืองไกรมายื่นกรณีหุ้นไอทีวีของนายพิธา อีกทั้งต่อมานายเรืองไกรได้มาให้ถ้อยคำกับ กกต.ในเรื่องดังกล่าว และยังมีเอกสารรายงานการประชุมของผู้ถือหุ้นไอทีวีที่นายเรืองไกรนำมายื่นเพิ่มกับกกต.อีก หลังจากนั้นมีการเผยแพร่สื่อออนไลน์ว่า สิ่งที่นายเรืองไกรนำมานั้น เป็นการเอาพยานหลักฐานเข้าสู่ระบบ กกต. อาจจะเป็นเท็จ

และวันที่ 12 มิ.ย.66 ตนมาร้องเรียนกับกกต. ว่าให้ตรวจสอบนายเรืองไกรที่ได้นำเอกสารมาอาจเป็นเท็จ ดังนั้น จึงให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเรืองไกร ไม่ว่าจะเป็นการให้ถ้อยคำ การนำเข้าสู่ระบบของกกต.ด้วยพยานเอกสารทั้งหลายนั้น น่าจะเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 143 โทษจำคุก 7-10 ปี

วันนี้ตนมารอดูว่า กกต.จะเอาอย่างไร ซึ่งวันที่ 19 ก.ค.66 ตนมายื่นยุบพรรคภูมิใจไทย ดูว่ากกต.จะชงเรื่องไหนไปศาลรัฐธรรมนูญก่อน

วันนี้ตนกับนายเรืองไกรวัดกันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ให้ติดคุกกันไปข้างหนึ่ง ไม่ว่าจะออกมาหน้าไหน นายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ก็ตาม และท้ายที่สุดพรรคก้าวไกลจะโดนยุบตนไม่สนใจ แต่ตนสนใจแค่หุ้นไอทีวี และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตา 143 นายเรืองไกรต้องติดคุก วันนี้กกต.ต้องแตะหรือถีบนายเรืองไกรออกมา อย่าอุ้ม

Advertisements

“ผมยืนยันมาตลอดว่าหุ้นสื่อไอทีวี ไม่มีสภาพเป็นหุ้นสื่อ ผมตามไปที่ศาลรัฐธรรมนูญขอให้ศาลตีตกเพราะมันไร้สาระ และเคยมาให้กกต.ชะลอเรื่องนี้ แต่เท่าที่ดูปฏิกิริยาของนายเรืองไกรก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องหุ้นไอทีวี นายเรืองไกรได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า นายพิธาน่าจะหลุดกรณีหุ้นสื่อ แบบนี้โทษนะ แล้วคุณยื่นไปทำไม

พอหลังจากศาลวินิจฉัยแล้ว นายเรืองไกรให้สัมภาษณ์อีกว่า ทำตามรัฐธรรมนูญ ทำตามหน้าที่ตรวจสอบ จึงอยากถามว่ามีรัฐธรรมนูญฉบับไหน มีมาตราไหนที่อนุญาตให้คนไปร้อง แล้วเอาหลักฐานเท็จเข้าสู่ระบบ

วันนี้ผมไม่ปล่อยนายเรืองไกร และเรื่องนี้นายเรืองไกรต้องติดคุก หากมีการร้องเรียนอยากร้องก็ร้องไป แต่ถ้าเป็นการร้องเรียนเพื่อกลั่นแกล้งกัน แล้วเกิดความเสื่อมเสีย สร้างความวุ่นวาย แบบนี้มันจะไม่ต้องมีคนรับผิดชอบหรือ โดยเฉพาะกรณีนี้ที่นายเรืองไกรนำหลักฐานเท็จเข้าสู่ระบบ กกต. แล้วจะลอยหน้าลอยตาได้อย่างไร ผมไม่ยอม” นายภัทรพงศ์ กล่าว

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button