หญิงมะกัน ขโมยเมมโมรี่การ์ด จากหนุ่มที่นัดเดตด้วย ก่อนกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
หญิงขโมยเมมโมรี่การ์ด จากหนุ่มที่นัดเดตด้วย เปิดมาดูถึงกับช็อก เป็นคลิปฆาตกรรม กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ในคดีที่จะเริ่มการพิจารณาในสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว ABC ได้ย้อนความคดีดังที่กำลังจะเริ่มการพิจารณาคดีในสัปดาห์นี้ โดยอาชญากรหญิงคนหนึ่งที่อาศัยในรัฐอะแลสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขึ้นรถเพื่อไปเดตกับชายคนหนึ่ง ทว่าในจังหวะที่เธอถูกปล่อยให้อยู่ลำพังในรถ เธอฉวยโอกาสขโมยเมมโมรี่การ์ดภายในรถ โดยในวินาทีนั้นเธอไม่รู้ว่าใน 4 ปีต่อมามันจะกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง
โดยในการ์ดนั้นมีภาพนิ่งและคลิปของเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกายคนและฆาตกรรมหญิงอย่างโหดเหี้ยม รวมถึงมีคลิปเสียงที่ที่ระบุว่า “ในหนัง ทุกคนตาย” “กลุ่มผู้ติดตามผมจะคิดอย่างไร ทุกคนควรจะรู้ว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อของฆาตกรรมต่อเนื่อง” หญิงที่ขโมยเมมโมรี่การ์ดจึงนำหลักฐานชิ้นนี้ส่งให้ตำรวจและนำไปสู่การจับกุมในที่สุด
ในตอนแรกเธออ้างว่าเธอเก็บได้จากพื้นถนน ก่อนที่ในเวลาต่อมาเธอจะยอมรับว่าเธอขโมยมา และเธอถือการ์ดมาเป็นสัปดาห์ก่อนจะมอบให้ตำรวจ ซึ่งในนั้นมี 39 รูป และอีก 12 คลิป ซึ่งศาลอนุญาตให้เธอสามารถขึ้นให้การได้ แม้ว่าทางทนายของผู้ต้องหาจะคัดค้านก็ตาม
ตำรวจสามารถระบุเจ้าของเสียงได้คือนาย ไบรอัน สตีเวน สมิธ โดยเขาถูกตั้งข้อหา 14 กระทง ไม่ว่าจะเป็นคดีฆาตกรรม, ล่วงละเมิดทางเพศ, ทำลายหลักฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับตายของ เคธลีน เฮนรี วัย 30 ปี และ เวโรนิกา อาบูชัค วัย 52 ปี เมื่อช่วงปี 2562 ซึ่งเขาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
โดยผู้เสียชีวิตทั้งสองคนนั้นเป็นบุคคลไร้บ้าน และเป็นคนท้องที่ในรัฐอะแลสกา โดยทั้งสองยังมาจากหมู่บ้านเล็กๆเหมือนกันด้วย
โดยการพิจารณาคดีจะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ทั้งนี้อัยการระบุว่าจะมีการวางมาตรการการป้องกันเพื่อไม่ให้สาธารณชนได้เห็นคลิปหรือภาพวินาที่ที่โหดเหี้ยมนี้