รู้เมื่อสาย เด็ก 8 ขวบ พ่อให้กินของหวานทุกวัน สุดท้ายป่วยมะเร็งไตระยะสุดท้าย
เด็กหลายคนในปัจจุบันมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับโรคร้ายแรงและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย สาเหตุมาจากการกินอาหารบางประเภทมากจนเกิดพอดี เช่นเดียวกับ เด็กชาวจีน วัย 8 ปี แต่ป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้าย อันเนื่องมาจากกินของหวานทุกวันจำนวนมกติดต่อกันเป็นเวลานาน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรื่องราวของ “เสี่ยวติม” เด็กหญิงอายุ 8 ขวบในประเทศจีนที่ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย พ่อของหนูน้อยทํางานเป็นพ่อครัวของร้านขนม ดังนั้นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พ่อของเธอจึงได้ลองชิมเค้กแปลก ๆ มากมาย
พ่อของเสี่ยวติมได้นําของหวานจากร้านมาให้ลูกเป็นประจํา ตั้งแต่เด็กหญิงอายุ 2 ขวบนื่องจากเธอชอบทานของหวานๆ จำพวกขนมเค้กและเบเกอรี่มาก
อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุได้ 8 ขวบ เธอเริ่มมีอาการไม่สบาย เช่น ลดน้ําหนักอย่างรวดเร็ว และปวดท้องบ่อยครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อครอบครัวนําตัวไปโรงพยาบาล เสี่ยติมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งไตระยะสุดท้าย ในขณะเดียวกัน การทํางานของตับของเด็กผู้หญิงก็เสียหายมากไปแล้ว
หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลา 30 วัน เสี่ยวติมก็เสียชีวิตลง
จากเรื่องราวนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการได้เตือนถึงอันตรายของการกินขนมหวานมากเกินไป จะทำให้ร่างกายต้องกรองของเสียหนักขึ้น ส่งผลต่อการทํางานของไตเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ น้ําตาลในปริมาณสูงในอาหารหวานอาจทําให้ร่างกายเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ยาก สะสมไขมันอวัยวะภายใน ทำให้เป็นโรคอ้วน ไขมันพอกตับ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
มะเร็งไตเกิดจากการพัฒนาเนื้องอกมะเร็งในไต ซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ มะเร็งเซลล์ไตและมะเร็งทางเดินปัสสาวะ ในบรรดามะเร็งเหล่านี้ มะเร็งเซลล์ไตเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยกว่า
มะเร็งไตมักเกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 ถึง 70 ปี โดยมีความเสี่ยงสูงสุดในช่วงอายุ 60 ถึง 70 ปี ผู้ชายมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากกว่าผู้หญิงถึงสองเท่า แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องเกิดขึ้นบ่อย แต่ก็มีกรณีของเด็กและคนหนุ่มสาวที่เป็นโรคนี้ด้วย ในกลุ่มนี้ ปัจจัยต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่และโรคอ้วน มีบทบาทสําคัญในการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค