พูดครั้งแรก “นาตาลี เกลโบวา” เลิกสามี บทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิต เป็นซิงเกิลมัม

นาตาลี เกลโบวา เลิกสามี พร้อมเปิดใจออกสื่อครั้งแรกกับอีกหนึ่งบทบาทใหม่ ‘คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว’ ยอมรับตรงๆ นี่คือช่วงเวลาที่ยากที่สุด และเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้

ถือเป็นการออกมาอัปเดตเรื่องราวในชีวิตครั้งแรก สำหรับ นาตาลี เกลโบวา อดีตนางงามจักรวาล Miss Universe 2005 วัย 42 ประกาศแยกทางกับสามีนักธุรกิจ และรับหน้าที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างเต็มตัว ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจยอมรับผ่านทางรายการ WOODY FM

ในช่วงหนึ่งของรายการ วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ได้ถามถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งนาตาลีเองเธอก็ยอมรับตรงๆ เลยว่าเป็นการออกมาพูดเรื่องเลิกสามีเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากๆ แต่ก็พร้อมที่จะพูด โดยตัวเธอเองนั้นคิดตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่านี่คือคนที่จะเติบโต และใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกันกับเขา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดี และมันก็เปลี่ยนเรื่องยากที่จะพูดถึงเรื่องนี้

นาตาลี เกลโบวา กล่าวต่อว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากๆ สำหรับลูกสาวของเธอ ที่จะต้องมารู้ว่าพ่อแม่แยกทางกัน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิต เพราะนาตาลีไม่สามารถทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอมีความคิดที่มั่นคงเกี่ยวกับคำว่าครอบครัว ความรัก และการแต่งงาน

เมื่อถูกถามถึงความรักที่มีให้ต่ออดีตสามี นาตาลี กลับให้คำตอบที่น่าทึ่งว่าเธอสามารถรักทุกคนได้อย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเธอกล่าวเอาไว้ว่า “ฉันอยากจะเชื่อว่าฉันมีความรักแก่มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ และนั่นคือภารกิจในชีวิตของฉันคือการสามารถพูดสิ่งนั้นได้ ฉันรักมนุษย์ทุกคนบนโลกอย่างไม่มีเงื่อนไข”

และสุดท้าย นาตาลี เกลโบวา พูดถึงความรู้สึกในตอนนี้หลังเลิกสามีนักธุรกิจ จนต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งเธอไม่คิดว่านี่คือความอ่อนไหวที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน โดยเธอให้เหตุผลว่า เคยผ่านการแต่งงาน และหย่าร้างมาแล้วครั้งหนึ่ง เพียงแต่ครั้งนั้นไม่มีลูก ตอนนี้มันคือชีวิตที่ใหม่และแตกต่างกว่าตอนนั้นมากๆ แต่เพราะโตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้นทำให้ได้เรียนรู้ และจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้นมาก

ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำเลยนั่นก็คือ ตัวเธอเองนั้นจะต้องมีสมาธิ เพื่อให้แน่ใจดีแล้วว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอนั้นจะได้รับผลกระทบจากเรื่องการหย่าร้างนี้ให้น้อยที่สุด ตอนนี้เหมือนเป็นการทำแบบทดสอบที่จะทำให้ได้เรียนรู้ถึงการปล่อยวาง และจะต้องผ่านมันไปให้ได้ นี่คือบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ติดตามเราได้ที่ :
•