เด็กชายจีนวัย 11 ปี ตัดสินใจดิ่งตัวจากตึกสูง เพื่อจบชีวิต และทิ้งจดหมายบอกลาพ่อแม่ พร้อมเหตุผลที่ว่า ครูดูถูกเป็นประจำ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นเรื่องราวของนาย จาง ติงเจี๋ย และ ภรรยา ที่อาศัยอยู่ที่มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ซึ่งทางเว็บไซต์ข่าว VTC NEWS ได้ออกมาเผยถึงการต่อสู้คดีความ ตลอดระยะเวลา 2 ปี เรียกร้องเพื่อความยุติธรรม ให้กับลูกชายของเขา ชื่อ จางควน ที่ได้จบชีวิตลงเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกานยน 2564 จากการโดดตึกสูง 24 ชั้น บริเวณตรงข้ามโรงเรียน ด้วยความเสียใจ และอยากรู้เหตุผลของลูกตัวเอง ก็ได้เปิดอ่านจดหมายที่ลูกชายได้ทิ้งไว้ก่อนจากโลกนี้ไป
ด้วยความหมายว่า “การตัดสินใจจบชีวิตในครั้งนี้ ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ สังคม หรือว่าประเทศของผม แต่มันเป็นเพราะ ผมรับแรงกดดันไม่ไหว จากการที่คุณครูโจว ครูประจำชั้นที่โรงเรียน ใช้ความรุนแรง และดูถูกผม” เหตุผลเหล่านี้ จึงจำให้เด็กชายได้ชีวิตตัวเอง
จากนั้นนายจาง และภรรยา ก็ได้สืบหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน จึงได้พบว่า ครูโจวได้ทำการดูถูกลูกชายซ้ำ ๆ อยู่เป็นประจำ ด่า ต่อว่า และในวันที่ลูกชายเสียชีวิต ครูโจวก็พูดดูถูกดูแคลน หาว่าโกหกที่ไม่ส่งข้อสอบ บอกว่า ที่บ้านยากจน ทำให้อับอายอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น นายจางกล่าวต่อ ในขณะที่ลูกชายของเขาเหม่อลอยมองผ่านกระจก ไปที่ตึกสูงตรงข้ามโรงเรียน ครูโจวก็พูดแซะ และชี้แนะให้ลูกชายเขาไปโดดลงจากตึกนั่น
ที่กล่าวมาข้างต้น ครูโจวก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังจากลูกชายเขาเสียชีวิตได้เพียง 2 เดือน ผ่านมา 2 ปี นายจางได้ลาออกจากการเป็นตำรวจจราจร และกลายมาเป็นทนายความ ตั้งใจรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อหาหลักฐานในการเอาผิดครูโจว และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชาย
จนมาถึงการพิจารณาคดีในครั้งแรก เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ครูโจวถูกตัดสินว่า ไม่มีความผิดใด ๆ ทางอาชญากรรม เพราะข้อมูล หรือหลักฐานที่มียังไม่มากพอ ถึงแม้นายจาง และภรรยา จะเสียใจกับการตัดสินใจของศาลในครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่หยุดความพยายาม ยืนยันจะฟ้องร้องครูโจวอีกครั้ง และหวังว่า จะได้รับความยุติธรรมด้วย
อีกทั้ง ชาวเน็ตก็ต่างเป็นกำลังใจ และชื่อชม นายจาง และภรรยา ที่ได้ช่วยเหลือด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับคดีสูญเสียลูก และเป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา ให้กับครอบครัว ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง : VTC NEWS
