‘ธีรยุทธ’ ร้อง กกต. ยุบพรรคก้าวไกล พรุ่งนี้ยื่น ป.ป.ช. เอาผิดจริยธรรม

ธีรยุทธ ยื่น กกต. ตรวจสอบยุบพรรคก้าวไกล ส่วนพรุ่งนี้จะไปยื่น ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดจริยธรรม พิธา และ สส. 44 คน ร่วมเสนอแก้ ม.112
นาย ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ซึ่งเป็นคนที่ยื่นร้องนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการเสนอร่างพรบ.แก้ไข ม.112 ว่าเป็นการเข้าข่ายการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างสถาบันและสั่งให้หยุดการกระทำตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดนายธีรยุทธ เดินทางมายื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากถอดเทปและอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียดแล้ว ในฐานะผู้ร้องคิดว่าตนเองต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามสิทธิที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญ จึงได้ทำคำร้องเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คำร้องนี้ประกอบด้วย เนื้อคำร้อง 11 แผ่น ถอดเทปอีก 11 แผ่น และเอกสารประกอบอีก 116 แผ่น เพื่อบังคับการกับพรรคก้าวไกลให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2562 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง
ซึ่งบัญญัติว่า เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น โดย (1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น ตนเห็นว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลพิจารณาสั่งยุคพรรคก้าวไกล
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก กกต. มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายอีกครั้ง นายธีรยุทธ เผยว่า ตนไม่ได้กังวลใจ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการวางบรรทัดฐานการเมืองการปกครองของประเทศไทย ดังนั้น เมื่อพรรคก้าวไกล หรือสมาชิกพรรค หรือผู้สนับสนุน หรือผู้นิยมชื่นชอบพรรคก้าวไกล อยู่ในฐานะที่จะต้องปฏิบัติและยึดถือบรรทัดฐานการเมืองการปกครองของไทย ซึ่งแม้ว่าจะเกิดขึ้นจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าหลักการนี้ก็ปรากฏอยู่ในข้อบังคับของพรรคก้าวไกลด้วยอยู่แล้ว ดังนั้น การที่จะมีผลกระทบหรือจะกระทบกระทั่งกันอย่างไรก็เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ที่คนนั้นควรจะพิจารณาระลึกถึงบ้าง
พร้อมกันนี้นายธีรยุทธ เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (2 กุมภาพันธ์ 67) เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดจริยธรรมของพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกล 44 คน ที่ร่วมเสนอชื่อแก้ไขกฎหมาย 112 รวมถึง นายพิธา ด้วย เนื่องจากเห็นว่า เป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเชื่อว่าจะเหมือนกับกรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน