เรืองไกร เตรียมยื่นคำร้องต่อ กกต. ยุบพรรคก้าวไกล วันนี้เวลา 10.00 น. หลังศาลวินิจฉัยแก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง ลั่นไม่ได้กลั่นแกล้ง
จากกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง สั่งยุติการกระทำ เลิกแสดงความเห็น พูด คิดเห็น พิมพ์โฆษณา โดยระบุว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ทำให้อ่อนแอลง นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง แต่ยังไม่โดนยุบพรรคตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี่นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 67 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 กุมภาพันธ์ 67) เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นคำร้องที่ กกต. เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล โดยก่อนหน้านี้เคยยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกลแล้ว 2 ครั้ง คือวันที่ 3 เม.ย.66 และ 30 มิ.ย.66 เรื่องการใช้ ม.112 ในการหาเสียง ซึ่งขณะนั้นนายทะเบียนของ กกต. มองว่าไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง แต่เป็นการใช้สิทธิ์เสนอกฎหมาย ซึ่งตนมองว่าถ้าส่งศาล รธน. วินิจฉัยยุบพรรคตั้งแต่ตอนนั้นก็จบข่าวไปแล้ว
นายเรืองไกรกล่าวด้วยว่า ผลคำวินิจฉัยไม่เกี่ยวกับความพอใจหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยมีแนววินิจฉัย กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา , นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒกุล ปราศรัยในการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาแล้วว่าเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครอง ตอนจึงมองว่าต้องยึดจากแนวทางตรงนี้ แต่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่นักการเมืองจึงไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองตามมา
ขณะเดียวกันหลายคนมองว่าการที่ไปร้องยุบพรรค หลังศาลมีคำวินิจฉัยทันที เป็นการรอเวลาหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ไม่ได้รอเวลา เพราะส่วนตัวเห็นว่าล้มล้างการปกครองมานานแล้ว เพียงแต่นายทะเบียนของ กกต.เห็นแย้งเพียงเท่านั้น และในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงขอให้นำคำร้องเดิมกลับมาดำเนินการอีกครั้ง เพื่อให้ศาลฯ วินิจฉัยต่อ และหาก กกต. ไม่ทำก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะคำวินิจฉัยของศาลมีผลผูกพัน
เมื่อถามว่าการที่จะไปร้องยุบพรรคเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่นั้น นายเรืองไกร ระบุว่า หากไม่ถูกใจ คุณก็ไปหาเหตุผลมาแก้ต่าง แต่ถ้าดูตามกฎหมายที่บังคับใช้จะเห็นได้ชัดว่ามีข้อห้ามและคำวินิจฉัยอยู่แล้ว
‘พิธา-ก้าวไกล’ ลุ้นต่อ หากถูกยื่น กกต. ส่งพิจารณา ยุบพรรคก้าวไกล
