กต. รอถก หลังรวบวงร็อค ‘Bi-2’ ต่อต้านปูติน-สงคราม ขณะแสดงที่ภูเก็ต
กต. รอถกกับ สมช. หลังเจ้าหน้าที่จับกุมวงร็อค Bi-2 ต่อต้านปูติน-สงคราม ขณะที่แสดงที่ภูเก็ต ท่ามกลางเสียงร้องขออย่าให้ส่งตัวกลับ
จากกรณีที่สำนักข่าว BBC รายงานว่า กลุ่มฮิวแมนไรตส์วอตช์ได้ออกมาร้องขอให้รัฐบาลไทยอย่าส่งตัววงร็อค Bi-2 กลับประเทศรัสเซีย หลังถูกจับกุมขณะแสดงโดยมีใบอนุญาตไม่ถูกต้องที่ภูเก็ต เนื่องจากเกรงว่าวงดนตรีดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีเมื่อกลับประเทศ เนื่องจากวงร็อควิจารณ์นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียและแสดงข้อความต่อต้านสงครามนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเมื่อพบผู้กระทำความผิด ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และส่งตัวเข้าห้องกักที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามขั้นตอน ส่วนประเด็นเรื่องการผลักดันกลับไปยังประเทศต้นทาง ขณะนี้ ผลักดัน 1 ในสมาชิกของวงไปแล้ว แต่ไม่ใช่ประเทศรัสเซีย ส่วนบางคนในสมาชิกวงที่ถือ 2 สัญชาติหากไม่ยินยอมกลับไปที่ประเทศต้นทางตามหนังสือเดินทางเข้าประเทศ ต้องประสานไปยังประเทศที่ 3 ที่บุคคลนั้นถือสัญชาติว่าพร้อมที่จะรับตัวเข้าประเทศหรือไม่
ส่วนเรื่องสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อปี 2566 คณะรัฐมนตรีฯ ได้ร่างหนังสือสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไประหว่างไทย กับรัสเซีย โดยผ่านการพิจารณาจาก ครม.แล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสนธิสัญญาบรรลุข้อตกลงระหว่างประเทศแล้วหรือไม่ ช่วงบ่ายของวันนี้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะเข้าร่วมประชุม กับ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ที่ดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศ เพื่อพิจารณาในการผลักดันสมาชิกวงดนตรีดังกล่าวกลับประเทศต้นทาง เรื่องละเอียดอ่อนที่อาจจะเข้าข่ายผิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่
ตามหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้ยกเว้นกรณีนักโทษทางการเมือง การเหยียดเชื้อชาติ ไม่สามารถกระทำได้ หากบุคคลเหล่านั้นไม่ได้ทำความผิดในคดีอาญา หรือก่อเหตุอาชญากรรม โดยขั้นตอนการส่งกลับประเทศ ทำความผิดไม่ยินยอม ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถบังคับให้ออกนอกประเทศได้ (ให้กักตัวไว้จนกว่าจะพร้อม)
นอกจากนี้ตัวผู้กระทำความผิดสามารถยื่นขอหน่วยงานสากลอย่าง สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) หรือ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองได้ หากเข้าข่ายตามหลักสิทธิมนุษยชน และสามารถประกันตัวออกมาอาศัยในฐานะผู้ลี้ภัยได้ แต่มีข้อแม้ห้ามประกอบอาชีพหรือกระทำการใด ๆ ที่ผิดต่อกฎหมายของประเทศนั้น