ไขปริศนา จุดกำเนิดของคำว่า “ส้ม” แท้จริงแล้วอะไรเกิดก่อนกัน ระหว่าง “ผลไม้ชื่อส้ม” หรือ “ส้ส้ม” อ้างอิงตาม พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พศ. 2554 มีความหมายอย่างไรบ้าง
ความหมายของคำว่า “ส้ม” ที่ปรากฏในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พศ. 2554 แบ่งออกเป็น 2 ควาหมายด้วยกัน ความหมายแรกคือ ชื่อไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ใบ ดอก และผิวผลมีต่อมนํ้ามัน มีกลิ่นฉุน ผลรสเปรี้ยวหรือหวาน และรับประทานได้ ส่วนอีกความหมายหนึ่งคือ สีเหลืองเจือแดง
เมื่อคำ ๆ หนึ่งสามารถสื่อความได้ถึงสองสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มีจุดเชื่อมโยงเดียวคือมีสีเหมือนกัน เช่นนั้นแล้วหลายคนจึงอาจสงสัยว่า “ส้ม” ที่พวกเราใช้เรียกสีและผลไม้ มีต้นกำเนิดมาจากอะไรกันแน่ คำว่าสีส้มจะเกิดขึ้นจากการเรียกตามชื่อของชนิดผลไม้ หรือผลไม้ถูกเรียกว่าส้มเพราะมีสีเช่นนั้น หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เคยตั้งคำถามถึงสิ่งนี้แล้วล่ะก็ วันนี้ Thaiger มีคำตอบมาให้คุณ
ต้นกำเนิดของคำว่า “ส้ม”
ในแง่ของประวัติศาสตร์เรื่องสี คำว่าสีส้มเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ อาจฟังดูน่าแปลกที่ผลไม้ชื่อส้มเกิดขึ้นก่อนถูกนำมาใช้เรียกเฉดสี สำหรับต้นกำเนิดแรกมีการสันนิษฐานกันว่า “สีส้ม” มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ต่อมาจึงเกิดคำศัพท์ในภาษาอังกฤษว่า “สีส้ม” เพื่อใช้อธิบายสี
จากบทความหนึ่งบนเว็บไซต์ mentalfloss ได้ระบุไว้ว่า ผลไม้ชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากหมู่เกาะมลายูและพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของเอเชียเขตร้อน “ส้มอาจแพร่กระจายจากแหล่งที่อยู่อาศัยดั้งเดิมไปยังอินเดียและชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา จากนั้นก็แพร่ไปยังภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ซึ่งการพิชิตของโรมัน การพัฒนาเส้นทางการค้าของอาหรับ และการขยายตัวของศาสนาอิสลาม มีส่วนสำคัญต่อการแพร่กระจายครั้งนี้”
ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์ theculturetrip ก็ได้กล่าวในทำนองเดียวกันว่า มีความเป็นไปได้ที่ชื่อดั้งเดิมของส้มจะมาจากทวีปเอเชียเขตร้อน ต่อมาจึงค่อยแพร่และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับรูปแบบต่าง ๆ ในภาษาอื่น ๆ
สีส้มกลายเป็นชื่อเรียกสีตั้งแต่เมื่อไหร่?
ในช่วงทศวรรษที่ 1400 คำว่า “ส้ม” ที่หมายถึง ผลไม้ ได้ปรากฏอยู่ในคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งศตวรรษหรือมากกว่านั้นในการแผ่ขยายไปยังผู้พูดภาษาอังกฤษ จากนั้นได้เกิดการพัฒนาให้เข้าใจตรงกันว่า “ส้ม” ก็สามารถเลือกใช้เพื่ออธิบายถึงสีแดงปนเหลือง และเรียกชื่อของผลไม้ รวมถึงใช้กล่าวถึงสิ่งอื่น ๆ ที่มีเฉดสีเช่นนั้น
คำว่า “สีส้ม” ปรากฏใช้ครั้งแรกบนสมุดบัญชีของสก็อตแลนด์เมื่อปีค.ศ. 1532 โดยได้บันทึกไว้ว่า “Ane 1/2 elne orenze veluot” ที่หมายถึงกำมะหยี่สีส้ม ซึ่งจะเห็นได้ว่า เดิมที่จะสะกดด้วย orenze จากนั้นจึงค่อย ๆ พัฒนาตัวอักษรจนกลายมาเป็น orenge ที่ใช้กันในปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้จึงสรุปได้ว่า ส้ม เกิดขึ้นจากการตั้งชื่อเรียกผลไม้ชนิดหนึ่ง และเมื่อผลไม้เริ่มกระจายการเติบโตไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก ผลไม้ที่ชื่อส้มจึงเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น จากนั้นราว ๆ 600 ปีก่อนจึงเกิดการนำชื่อเรียกผลไม้มาใช้เรียกสีด้วยเช่นกัน
ข้อมูลจาก mentalfloss, theculturetrip
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขกระจ่าง “ครีมเทียม” กับ “คอฟฟี่เมต” ต่างกันอย่างไร
- ไขความจริง ทำไม ‘ชาเขียว’ เป็นสีน้ำตาล แต่ชงเสร็จถึงกลายเป็นสีเขียว
- ตอบแล้ว ทำไมห้ามใช้ตะเกียบคีบหมูดิบ ทานอาหาร เสี่ยงเป็นโรคไข้หูดับ